นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการ ซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 ที่ปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และพบว่า นายวีระศักดิ์ บุศยรัตน์ ผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานขับรถไฟ ตำแหน่งพนักงานขับรถไฟ แขวงดีเซลรางกรุงเทพฯ ประจำโรงงานรถดีเซลรางกรุงเทพฯโดยในรื่องนี้ได้มีการประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะได้มีการสอบประวัติย้อนหลังไปอย่างน้อย 14 วัน จากเพื่อนพนักงานของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ทราบทารฺ์มไลน์ว่า มีการใกล้ชิดสัมผัสใครบ้างที่จะต้องเข้าข่ายให้บุคคลเหล่านี้ทำการกักตัว 14 วันตามมาตรฐานการควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
“เบื้องต้นจากการพูดคุยกับเพื่อนพนักงานของผู้เสียชีวิตพบว่ามีพนักงานรถไฟที่เข้าข่ายทำงานร่วมกัน ประมาณ 10 กว่าคน อันนี้ไม่รวมบุคคลในครอบครัวและผู้คนที่ผู้เสียชีวิตไปเจอนอกเวลางานซึ่งก็เชื่อว่า จะมีจำนวนมากกว่านี้เยอะ”นายศิริพงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปฏิบัติงานของผู้เสียชีวิตยืนยันว่าการเป็นพนักงานขับรถไฟ ไม่ได้มีการพบปะกับผู้โดยสาร โดยจะเจอก็เฉพาะพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในหัวรถจักร ส่วนการที่นายวีระศักดิ์ ได้เข้าพักที่พักชั่วคราวของพนักงานรถไฟระหว่างปฎิบัติงาน (รันนิ่ง) ที่จังหวัดนครราชสีมา และมีการระบุว่าที่พักเป็นสถานที่แออัด อาจทำให้เกิดการระบาดในพนักงานรถไฟที่เข้าพักใน รันนิ่ง นั้น ในส่วนนี้นายศิริพงศ์ ยืนยันว่าตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด และรฟท.มีการเดินรถน้อยลงไปมาก ที่พักในรันนิ่ง(ที่พักของพนักงานขับรถไฟมาพักรวมกัน) ก็ไม่ได้อยู่กันแออัดแต่อย่างใด
