ปี 64 ทั่วโลกไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพอากาศ WHO

  • บังกลาเทศแย่สุด-ชาด รั้งที่ 2 ติดโผครั้งแรก
  • นิวเดลีติดอันดับเมืองมีมลพิษมากสุดในโลก
  • ขณะที่จีนคุณภาพอากาศดีขึ้นฝุ่น PM 2.5 ลดลง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผลสำรวจที่จัดทำโดย IQAir เผยปี 64 ไม่มีประเทศใดผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านคุณภาพอากาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) ขณะที่บางพื้นที่ยังพบปัญหาหมอกควันเพิ่มขึ้นหลังจากที่เคยลดลงในช่วงโควิด-19

สำหรับผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลด้านมลพิษในเมือง 6,475 แห่ง ซึ่งพบว่า มีเพียง 3.4% ของเมืองที่เก็บข้อมูล ที่คุณภาพอากาศเข้าเกณฑ์มาตรฐานในปี 64 ขณะที่ 93 แห่งมีฝุ่น PM2.5 สูงกว่าระดับที่ WHO กำหนดไว้ 10 เท่า

ทั้งนี้ WHO ได้กำหนด ค่าเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเมื่อปีที่ผ่านมา และยังระบุว่า แม้ค่าความเข้มข้นในระดับที่น้อยกว่านี้ก็ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้มาก

คริสตี ชโรเดอร์ ผู้จัดการฝ่ายวิทยาศาสตร์คุณภาพอากาศของ IQAir กล่าวว่า “หลายประเทศกำลังเร่งดำเนินการเพื่อลดมลพิษ จีนเองก็เริ่มมีความคืบหน้าในการลดมลพิษทางอากาศได้มากในบางส่วน และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ในโลกที่คุณภาพอากาศแย่ลง”

รายงานระบุว่า จีนมีฝุ่น PM2.5 ลดลงมาอยู่อันดับที่ 22 ในปี 64 จากอันดับที่ 14 เมื่อปี 63 โดยมีค่าเฉลี่ย32.6 ไมโครกรัม อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อินเดีย มีระดับมลพิษโดยรวมแย่ลง โดยกรุงนิวเดลียังคงรั้งตำแหน่งเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ส่วนบังกลาเทศ มีมลพิษสูงสุดเช่นปี 63 ส่วนสาธารณรัฐชาดติดโผครั้งแรกและอยู่ในอันดับ 2