“ปานปรีย์”  พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย – กัมพูชา

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ. สระแก้ว พร้อมพัฒนาพื้นที่ชายแดนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย – กัมพูชา

  • รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรัฐและเอกชน
  • ไทยและกัมพูชามีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมกว่ 300,000  ล้านบาท 
  • เป็นการค้าชายแดน ซึ่งจังหวัดสระแก้วเป็นช่องทางการค้าใหญ่ที่สุด

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2566  ได้ลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อศึกษาสถานการณ์การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนและโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย – กัมพูชามากขึ้น

ทั้งนี้ได้รับฟังการบรรยายสรุปพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว และผู้แทนหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมอาคารด่านศุลกากรอรัญประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มด้านการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดน การเตรียมการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) อย่างเป็นทางการ การพัฒนาการขนส่งสินค้าข้ามแดนทางราง รวมถึงแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการหารือ นายปานปรีย์  ได้เดินสำรวจพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรคลองลึก – ปอยเปต โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดปอยเปต กัมพูชา ให้การต้อนรับ และเดินต่อไปยังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการรายย่อยในตลาดโรงเกลือ เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคและแนวทางในการส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย –กัมพูชา และยังได้ติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคารสำนักงานศุลกากรในบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ให้การต้อนรับ เพื่อรองรับการเปิดใช้สะพานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าข้ามแดนและลดความแออัดของจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก – ปอยเปต ซึ่งเป็นช่องทางการค้าหลักที่ใหญ่ที่สุดระหว่างไทยกับกัมพูชาในปัจจุบัน

สำหรับไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด เมื่อปี  2565  มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมกว่ 300,000  ล้านบาท โดยประมาณ  60%  เป็นการค้าชายแดน ซึ่งจังหวัดสระแก้วเป็นช่องทางการค้าระหว่างสองประเทศที่ใหญ่ที่สุด