- เผยมียอดวินิจฉัย ไปแล้วจำนวน 954,365 ราย
- เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,097.592 ล้านบาท
- ลั่นผู้ที่ยื่นขอรับสิทธิ์ที่ยังไม่ได้รับเงิน ยื่นเรื่องต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ได้
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงเรื่องการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย สถานการณ์โควิด-19 ให้แก่ผู้ประกันตนว่า มียอดวินิจฉัย จ่ายเงินสะสม ณ วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมาแล้วจำนวน 954,365 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,097.592 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์แล้วยังไม่ได้รับเงิน หรือได้รับหนังสือแจ้งปฏิเสธการจ่ายสิทธิประโยชน์ดังกล่าว สามารถยื่นเรื่องต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์(โควิด-19 ) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ทุกพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดทุกจังหวัด และในส่วนกลางตั้งอยู่ที่สำนักงานประกันสังคมสำนักงานใหญ่ ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งทุกศูนย์ฯ เปิดให้บริการในวันราชการ เวลาทำการ 08.00 ถึง 18.00 น.
ทั้งนี้ผู้ประกันตนมีข้อสงสัยว่า การยื่นขอรับสิทธิ์กรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยนั้น จะขอรับได้ถึงเมื่อใด ก็ขอชี้แจงว่า กฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. 2563 นั้น กำหนดให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินว่างงานได้รับสิทธิ์ตามความเป็นจริงแต่ไม่เกิน 90 วัน ในช่วงของระยะเวลาการหยุดงาน และไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่ วันที่ 1 มี.ค.2563 ถึงวันที่ 31 ส.ค.2563 ทั้งนี้ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับสิทธิ์ได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่มีสิทธิ์
สำหรับผู้ประกันตนที่จะยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยนั้น เพื่อความรวดเร็ว สำนักงานประกันสังคมขอให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. ตรวจสอบบัญชีธนาคารของตนเองว่าบัญชีนั้นยังสามารถใช้งานได้ไม่เป็นบัญชีปิด
2. ตรวจทานข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคารให้ถูกต้องในการยื่นขอรับสิทธิ
3. หากนายจ้างสามารถเป็นฝ่ายรวบรวมแบบขอรับสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง พร้อมหนังสือรับรองการหยุดงานของนายจ้างเพื่อยื่นต่อสำนักงานฯจะเกิดความรวดเร็ว
นายทศพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับเงิน เนื่องจากนายจ้างยังไม่แจ้งรับรองการหยุดงานนั้น ทางตนได้สั่งการให้เร่งติดต่อไปทางนายจ้างแล้ว แต่ปัญหาที่พบคือ นายจ้างบางรายไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากมีการย้ายที่อยู่ หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว ไม่ตรงกับเบอร์โทรที่ระบุไว้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามทางสำนักงานฯ ได้มีการจัดทำหนังสือติดตามไปแล้ว รวมถึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาหลักฐานประกอบการจ่ายสิทธิ์ให้แก่ผู้ประกันตนโดยเร็วที่สุดต่อไป
