“บีโอไอ” เผยไม่ต้องห่วง หลัง GM ยุติผลิตรถในไทย เชื่อกลุ่มยานยนต์จีนเข้ามามีแต่เรื่องดี

  • เลขาฯบีโอไอ โพสต์เฟสบุ๊ค BOI News แจงกรณี GM
  • มั่นใจหลังกลุ่ม GWM เข้ามาจะทำให้เทคโนโลยียานยนต์ไทยไปไกล
  • เผยจับตาดูแลใกล้ชิด จนกว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่น

..ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอได้ชี้แจงผ่านเฟสบุ๊ค BOI News กรณีGeneral Motors ประเทศไทย หรือ GM ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet ในประเทศไทยภายในปีนี้ พร้อมขายศูนย์การผลิตรถยนต์ให้กับ Great Wall Motors หรือ GWM ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนรายใหญ่ ว่า บริษัท GM ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ตั้งโครงการอยู่ที่จังหวัดระยอง โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Chevrolet  สำหรับตลาดในประเทศไทย และผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Holden สำหรับตลาดประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่ยอดขายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ บริษัทจึงจำเป็นจะต้องตัดสินใจประกาศยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย รวมทั้งยุติการขายรถยนต์ยี่ห้อ Chevrolet ในประเทศไทยแล้วก็ยกเลิกการขายรถยนต์ยี่ห้อ Holden ในประเทศออสเตรเลียด้วย 

ทั้งนี้แม้ว่าบริษัท GM จะยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย แต่บริษัท GWM  ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต รถ SUV และรถบรรทุกชั้นนำของประเทศจีน ก็มีแผนที่จะเข้ามารับช่วงต่อกิจการในประเทศไทย และขยายการลงทุนในประเทศไทยโดยวางแผนที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถตลาดอาเซียนและออสเตรเลีย รวมทั้งคาดว่าจะมีการจ้างงาน รวมถึงการขยายการลงทุนในประเทศไทย มีการจ้างงานมีการเพิ่มทักษะบุคลากรของบริษัทต่อไป 

..ดวงใจ กล่าวว่า บีโอไอจะหารือกับบริษัททั้ง 2 อย่างใกล้ชิดต่อไป รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น และนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระยะต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้าวสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เป็นยานยนต์สมัยใหม่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม การชี้แจงของเลขาฯ บีโอไอ ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ออกมาให้ข้อมูลกรณีนี้ว่า การเข้ามาของ GWM เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่ง GWM วางแผนการผลิตรถยนต์ SUV และรถปิกอัพ รวมถึงการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 100,000 คันต่อปี โดย 50% ของการผลิตจะถูกส่งออกไปยังตลาดยานยนต์ทั่วโลกเช่น ยุโรป อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ 

ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งก็จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อภาคการผลิต โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยและ Supply Chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ การส่งออก และการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรม  ขณะเดียวกันทาง GWM ยังมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ และเยอรมนี ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ประเภทลิเทียมไอออน และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสนับสนุนสำคัญต่อนโยบายการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของรัฐบาลอีกด้วย