นายกฯ ยันตัวเองปลอดเชื้อโควิด ให้กำลังใจ-เตือนเจ้าหน้าที่จ.สมุทรสาครทำงานอย่างระมัดระวัง

  • ชี้ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก สั่งกองทัพช่วยเต็มที่
  • เร่งตรวจสอบตัวเลขแรงงานต่างชาติเพื่อช่วยเหลือ
  • รองผู้ว่าฯ เผย “ตลาดกลางกุ้ง” กลับมาเปิด 27 ม.ค.นี้

วันที่ 18 ม.ค.2564 ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO Conference กับจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา และรับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าร่วม

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครที่ทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความเสียสละ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังให้มากที่สุดเพราะยังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่อยู่มาก นายกฯ เองก็ระมัดระวังตนเองไม่ให้ป่วยโดยมีการตรวจหาเชื้อโควิดอยู่เสมอ เพราะยังมีงานอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ขอยืนยันขณะนี้นายกรัฐมนตรีปลอดภัยไม่มีเชื้อโควิด

ขณะที่นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สรุปรายงานภาพรวมสถานการณ์โควิดของจังหวัดสมุทรสาครว่า นับตั้งแต่การพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่ตลาดกลางกุ้ง 1 ราย เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากจนมีคำสั่งล็อคดาวน์ ตลาดกลางกุ้ง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงปัจจุบันนี้พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,679 ราย ประกอบด้วยทั้งคนไทยและต่างด้าว รักษาหายป่วยจำนวน 3,059 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,619 ราย เสียชีวิต 1 ราย สำหรับโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร มีทั้งหมด 9 แห่ง มีเตียงรองรับ3,620 เตียง พร้อมใช้งาน 5 แห่ง จำนวน 1,560 เตียง และใช้งานแล้ว 556 เตียง ยังคงเหลือที่สามารถใช้งานได้อีก 1,004 เตียง และยังมีโรงพยาบาลสนามเตรียมพร้อมอีก 4 แห่ง จำนวน2,060 เตียง

“ยืนยันมีโรงพยาบาลและเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วยทั้งในปัจจุบันและอนาคต  ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในพื้นที่จัดตั้งศูนย์ห่วงใยแรงงานสาคร Factory Quarantine มีทั้งหมด 15 แห่งด้วย ซึ่งพร้อมดูแลแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติในพื้นที่  สำหรับในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งมีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่ 2,847 ราย ได้มีการกักกันแยกไว้ที่โรงพยาบาลสนาม1,547 ราย ซึ่งมีผู้ที่ติดเชื้อโควิดด้วย ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่สามารถแพร่เชื้อ ในวันที่ 22 ม.ค. 64 จะตรวจเพิ่มเติมอีกครั้งหากพบผู้ติดเชื้อจะทำการคัดแยกมาที่โรงพยาบาลสนาม”

รวมทั้งมีกำหนดทำ  Big Cleaning Day ในวันที่ 26 ม.ค. 64 เพื่อให้ตลาดกลางกุ้งจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันที่  27 ม.ค. 64  สำหรับการจัดตั้งจุดคัดกรองทางบกและทางน้ำ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมกำชับประชาชนให้ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะและไทยชนะ เพื่อบันทึกการเดินทาง ขณะเดียวกันจังหวัดสมุทรสาครยังคงใช้มาตรการปิดสถานที่เสี่ยงในหลายๆ แห่ง ยกเว้นสถานที่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ร้านค้าปลีก โดยไม่ให้กระทบต่อการจ้างงานแต่ยังอยู่ภายใต้มาตรการของ ศบค.

ทั้งนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิดของจ. สมุทรสาคร ได้รับการสนับสนุนทั้งจากทางภาครัฐและเอกชน รวมทั้งได้เสริมในส่วนของล่าม ยานพาหนะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องดื่มอาหาร แอลกอฮอล์  อีกทั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ ยังให้ใช้พื้นที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1,000 เตียงด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความห่วงใยและได้สั่งการให้กองทัพช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แสดงความเป็นห่วงทั้งแรงงานต่างชาติและแรงงานไทยที่ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ในช่วงนี้ ขอให้จังหวัดประสานกับกระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบตัวเลขแรงงานต่างชาติทั้งที่ถูกกฎหมายและที่ไม่ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้ทราบตัวเลขที่แท้จริง รวมทั้งฝากจังหวัดและภาคเอกชนช่วยดูแลแรงงานเท่าที่จะทำได้ เช่น คงการจ้างงาน เพื่อให้ยังอยู่ได้โดยไม่ต้องออกจากพื้นที่ ลดความเสี่ยงการกระจายเชื้อไปพื้นที่อื่น

สำหรับการเปิดตลาดกลางกุ้งในครั้งนี้ ต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะจะต้องคัดกรองคนในพื้นที่ ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ขนส่ง รวมไปถึงชาวประมงที่นำเรือขึ้นฝั่งด้วย เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้ออีก รวมทั้งอาจจัดตั้งให้มีตลาดกลางซื้อ-ขายสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้สินค้าอาหารทะเลสามารถกระจายไปได้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวในช่วงท้ายว่า  ขอให้ช่วยกันรณรงค์สวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าบันทึกการเดินทางผ่านแอพลิเคชันป้องกันโควิดมั่นใจว่า มีการผลิตหน้ากากออกมาเพียงพอเนื่องจากมีการส่งเสริมให้พื้นที่ท้องถิ่น ชุมชน ช่วยกันผลิตหน้ากากผ้าเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน พร้อมฝากไปยังหน่วยงานชี้แจงประชาสัมพันธ์ อาการบ่งชี้ของโควิด คือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส นอกเหนือจากจะมีไข้ เจ็บคอ เพื่อลดความกังวลของประชาชนรวมทั้งขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมวัคซีนโควิด ซึ่งรออนุมัติจากองค์การอาหารและยาทั้งจากประเทศต้นทางและปลายทาง และอยู่ในการบริหารของสถาบันวัคซีน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมดูแลคนไทยทุกคน