“นพ.ชลน่าน”ซัด”ประยุทธ์”ทำโควิดเข้าขั้นวิกฤต-จ่อยื่นป.ป.ช.ฟันฐานปล่อยปละละเลย

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 64 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข มีสำนึกรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง ตัวเลขผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันน่าหดหู่มาก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ มีจิตสำนึกที่ดีเหตุการณ์วันนี้จะไม่เกิดขึ้น

จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้อภิปรายต่อถึงการบริหารที่ผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว เสียหายอย่างร้ายแรง ประการแรก คือ ไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ ไม่มีความรู้ความสามารถ ประการที่สอง รวบอำนาจหลงตัวเอง เสพติดอำนาจ เป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ชุดภายใต้จอมสั่งการทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ เป็น ครม.เป็ดง่อย เป็นตรายางเท่านั้น ไม่มีโอกาสออกนโยบายด้วยตนเองเลย เป็นนายกฯ ที่ออกข้อสั่งการมากที่สุดในโลก เหมือนสั่งสิ่งสกปรกออกจากร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เอาทหารมาเป็นหมอรักษาโรค มีแต่ป่วยกับตาย ไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ 

และประการที่สาม ทุจริตหากินบนความตายของประชาชน เรียกได้ว่า โง่ บ้า โกง ตนไม่กล้าเรียก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นผู้นำประเทศไทย เพราะเขาเป็นแค่ผู้สั่งการ แต่ไร้ภาวะผู้นำในภาวะวิกฤต สื่อสารกับประชาชนผิดพลาดอย่างร้ายแรง พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โฆษกรัฐบาล รวมถึงทีมงาน ออกมาสื่อสารกับประชาชน ถามว่าเคยออกมาขอโทษ และแสดงความเป็นมนุษย์บ้างหรือไม่ มีแต่โทษประชาชนว่าการ์ดตก พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการปะทะ เป็นเชื้อปะทุมาปะทะกับพี่น้องประชาชน ถ้าต้นทุนของ พล.อ.ประยุทธ์ คือความศรัทธา การแต่งตั้งบุคคลเหล่านี้มาทำหน้าที่สื่อสารกับประชาชน ทำให้ต้นทุนของท่านลดลงอย่างมาก

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ช่วงใกล้การอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านสื่อสารโดยการกดตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เรายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. – 31 ส.ค.ตัวเลขลดลงอย่างสวยงาม และลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ นี่คือการกลบเกลื่อนสร้างภาพ เพื่อความอยู่รอด และความมั่นคงของรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วท่านตรวจน้อยลง นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอธิบดีกรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ไม่ดำเนินการใดๆ ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่ม 1 หมื่นรายต่อวัน แปลว่าท่านรู้อยู่แก่ใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่ท่านกลับปล่อยปละละเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนจะเอาท่านเข้าคุก

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรื่องที่จะเอา พล.อ.ประยุทธ์ เข้าคุก ข้อกล่าวหาที่ 1 คือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่สุจริต มีพฤติกรรมฉ้อฉลทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้อสั่งการนายกฯ เช่น ข้อสั่งการนายกฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ที่ระบุว่าประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนทุกคนต้องได้ฉีด ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 กรณีการฉีดวัคซีน การรักษาพยาบาล ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการบริการสาธารณสุขของรัฐ และการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ เป็นต้น 

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำตามข้อสั่งการที่ตนเองสั่งมา ข้อกล่าวหาที่ 2 ทำระบบสาธารณสุขล้มเหลว ล้มละลาย ข้อกล่าวหาที่ 3 เลือกปฏิบัติ ไม่สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน และข้อกล่าวหาที่ 4 ปฏิบัติ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติครม. และข้อสั่งการของนายกฯ ในการจัดหา จัดซื้อ ชุดตรวจ ATK ทั้งนี้ หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น เราจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

นอกจากนี้ ยังจะร้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย สุดท้ายนี้ นายกฯ เป็นชายชาติทหารถวายสัตย์ปฏิญาณ ท่านอาจจะมีเจตจำนงที่ดีในการเข้ามาช่วยบ้านเมือง ท่านอาจจะมีมโนธรรมที่ดี อาจจะมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ถ้าท่านลาออก 3 เดือนหลังจากนี้ ท่านจะเป็นวีรบุรุษต่อพวกเราทุกคน