ธอส.เล็งตั้งสำรองเพิ่ม 5,000 ล้านรับหนี้เอ็นพีแอลปีนี้พุ่งถึง 4.75%จากพิษโควิด-19

  • คลังลดเป้าขยายสินเชื่อธอส.เหลือ 170,000 ล้านบาท
  • ลดเป้าหมายกำไรปีนี้ลงเหลือ 7,000 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันระดับของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้อยู่ที่ 4.52% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่  4.09% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบต่อรายได้ของผู้กู้ โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้มีอาชีพอิสระและมีรายได้น้อย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% ของลูกค้าทั้งหมด ดังนั้นธอส.จึงคาดว่าปีนี้ระดับหนี้เอ็นพีแอลของธอส.จะอยู่ที่ 4.75% 

อย่างไรก็ตามเพื่อรองรับเอ็นพีแอลที่อาจจะเพิ่มขึ้น ธอส. จึงได้วางแผนตั้งสำรองเพิ่มเติมในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ จำนวน 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เพื่อสำรองให้ลูกค้าที่อยู่ในโครงการลดผลกระทบโควิดทั้ง 8 มาตรการของธอส. เป็นวงเงินสำรอง 2,500 ล้านบาท และสำรองตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อีกเดือนละ 500 ล้านบาท รวมเป็น 2,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันฐานะของ ธอส. ยังถือว่ามั่นคง เพราะอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับ 15.35% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธปท.ตั้งไว้

 “จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ ธอส. ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้ปรับลดเป้าหมายการขยายสินเชื่อเหลือ 170,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 210,000 ล้านบาท และลดเป้าหมายกำไรลงเหลือ 7,000 ล้านบาท จากเป้าเดิม 13,000 ล้านบาท

สำหรับยอดการขยายสินเชื่อของธอส. ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็น 100,981 ล้านบาท 62,116 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.99% ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของ ธอส. ตามโครงการสนับสนุนให้คนรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตนเอง  ซึ่งล่าสุดยอดปล่อยสินเชื่อ ณ วันที่ 16 ก.ค.นี้ อยู่ที่ 107,000 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.25 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 3.89%  เงินฝากรวมอยู่ที่ 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.76% และมีกำไรสุทธิ 4,830 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 14.87%

“ทั้งนี้หากสถานการณการแพร่ระบาดโควิด-19 ยุติลงเร็ว ประกอบกับมีมาตรการสนับสนุนด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำจากรัฐเพิ่มเติม เชื่อว่าธอส. จะสามารถปล่อยกู้ได้เฉลี่ยเดือนละ 17,000 -18,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายเดิม  อย่างไรก็ตามในปีนี้ธอส.จะเดินหน้าพัฒนาบริการสู่ดิจิทัล โดยจะทำให้ระบบเงินฝากและการกู้ทั้งหมดของธนาคารอยู่บนระบบดิจิทัล100%”