“ธนกร” ซัดกลับเพื่อไทย ปม “เงินดิจิทัล” ชูนโยบายสุดโต่ง ยกตัวอย่างกลัวไทยเดินตามรอยเวเนซุเอลา

  • เชื่อวันนี้ประชาชนเป็นคนฉลาดทราบดีว่านโยบายไหนหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือทำได้
  • คุยนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติทำได้จริงและทำสำเร็จไปแล้วหลายนโยบายแล้ว
  • ชี้เงินดิจิทัลต้องระมัดระวังมีความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายอาจตอบสังคมไม่ได้มีความเสี่ยงเรื่องวินัยการเงินการคลัง

วันนี้ (11 เม..66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ และหัวหน้าคณะทำงานจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ตนเพิ่งได้ยินแกนนำของพรรคเพื่อไทยที่บอกว่า เรื่องเงินดิจิทัล ถ้าใครได้ไปแล้วไม่สามารถไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจนได้ ตรงนี้ผมคิดว่ามันต้องคิดหลายอย่าง ซึ่งในอดีต ที่ผ่านมา พวกท่านโจมตี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาโดยตลอด ว่าเก่งแต่แจกเงิน ทุกเช้า กลางวันเย็น ก่อนนอน แต่วันนี้ท่านมาดำเนินการซึ่งมากกว่า ใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตมีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้นโยบายสุดโต่งในการหาเสียงแบบนี้ 

ส่วนตนเชื่อว่า วันนี้ประชาชนเป็นคนฉลาด ท่านจะทราบดีว่านโยบายตรงไหนหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือทำได้

ทั้งนี้ วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างคิดว่าประชาชนน่าจะกังวล และเชื่อว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดมา 3 ข้อเรื่องที่มาของเงิน ประโยชน์และความคุ้มค่า แต่ข้อที่ 3 เงินดิจิทัล ต้องระมัดระวัง ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายตรงนี้คิดว่าตอบสังคมไม่ได้ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องวินัยการเงินการคลัง และ นักการธนาคารได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าเป็นนโยบายสุดโต่งหาเสียงมากเกินไป

เรามีประเทศตัวอย่างที่ล่มสลาย อย่างประเทศเวเนซุเอลา ประเทศประชานิยมสุดโต่งประเทศก็พังไปแล้ว ฉะนั้นวันนี้อยากให้คนไทยได้ตั้งสติ และทบทวนในสิ่งที่พรรคการเมืองบางพรรคเสนอนโยบาย แต่นโยบายของพรรค รทสชทำได้จริง และทำสำเร็จไปแล้วหลายนโยบาย และคิดว่าประชาชน เข้าใจในสิ่งที่พล..ประยุทธ์ ทำมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยออกนโยบายมา มีสิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 4 กิโลเมตรหรือการใช้ระบบ ผมฟังแล้วยังสับสน มาแล้วขณะที่โครงการของรัฐบาลใช้สำเร็จมาแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจจริง แต่นโยบายของท่านในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท แจกทุกคน หมายความว่าเจ้าสัวก็ได้ด้วย มันเป็นตรรกะที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทบทวนนโยบายเหล่านี้” นายธนกร กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าพรรค รทสชจะมีนโยบายอะไรใหม่ๆออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งนายธนกร กล่าวว่า เรื่องนโยบายไม่ควรจะมีเยอะ ซึ่งเราต้องดูแลประชาชนทุกสาขาอาชีพ สิ่งที่เราต่างจากพรรคอื่นคือ พรรค รทสชบอกวิธีการหาเงินเข้าประเทศอย่างเงิน 4 ล้านล้านบาท จะหาเงินมาอย่างไร รวมถึง นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา 27.5 ล้านคน เงินจะเข้ามา 2.3 ล้านล้านบาท นี่คือการหาเงินจากอีอีซี

อีกทั้งเมื่อถามว่า จะไปตรวจสอบหุ้นดิจิทัลของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชนหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนเห็นคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ซึ่งมีความผิดปกติเยอะเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ การสื่อสารไปทุกพื้นที่ ประชาชนฟังข่าวแล้วทบทวนจะเข้าใจว่าเป็นไปได้ยาก ไม่ตอบโจทย์และไม่สมเหตุสมผลกับนโยบายนี้ แต่นโนบายพรรครทสชตอบโจทย์และสมเหตุสมผล เพราะทำสำเร็จแล้ว ส่วนรายได้ 4 ล้านล้านบาทที่จะหาเงินเข้าประเทศนั้น จะใช้ช่วงระยะเวลาปี