“ธนกร”สวน”พิธา”คนไทย ต่างชาติแห่เที่ยวภูเก็ต-พิสูจน์ชัดไม่ใช่เปิด ประเทศแบบมัดมือชก

.ย้ำนโยบายนายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

.พลิกโฉมประเทศควบคู่กับการดูแลสาธารณสุขคนไทย

.ติงอย่าค้านทุกเรื่องที่คนไทยได้ประโยชน์เพื่อสร้างคะแนนนิยม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโหม มัดมือชกคนทั้งประเทศเพียงเพราะไม่อยากผิดคำพูดที่ตอนแรกพูดว่าจะฉีดให้ได้ 50 ล้านโดสก่อนเปิดประเทศ แต่สุดท้ายก็ฉีดไม่ถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดสแล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่วางไว้ 50 ล้านคน ครอบคลุมประชากร 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปีนี้อย่างแน่นอน จึงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการดำเนินการมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลด้วยว่า ต้องคำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมประเทศ

นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ น่าเสียดายมากๆ เป็นการเปิดที่ไร้วิสัยทัศน์ เป็นการเปิดแบบตามยถากรรมนั้น จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์พบว่า ตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาใช้บริการมากขึ้น ขณะเดียวกัน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ต กิจการร้านค้า ต่างกลับมาเปิดให้บริการเกือบปกติแล้ว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1-21 ตุลาคม 2564 มากถึง 53,120 คน มียอดเงินใช้จ่ายแล้วกว่า 3,192 ล้านบาท ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือเป็นความาสำเร็จของประเทศไทย ต่างประเทศก็ชื่นชมมีเพียงนายพิธาที่สมองเหมือนไม่รับรู้อะไรเลยอยู่ในกลุ่มพวกไม่อยากให้รัฐบาลทำสำเร็จ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้ง ศบค.ออกข้อกําหนด ฉบับที่ 36 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือยกเลิกเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลต้ังแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทั้งการเปิดประเทศ และการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย

“การบอกว่าที่ผ่านมารัฐไม่ยอมจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับคนกระบี่ โดยเพิ่งจะมาเร่งฉีดในช่วง 3-4 วันมานี้นั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพียงเพื่อหวังสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวเองเท่านั้น วันนี้ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยมากกว่า 70 ล้านโดสแล้ว ย่อมไม่ใช่การเปิดประเทศแบบมัดมือชก ขนาดรัสเซล โครว์ ดาราฮอลลีวูด ก็ยังชื่นชมรัฐบาลไทยที่ตัดสินใจเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เลย ไม่อยากให้ฝ่ายค้านนำเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้มาโยงเป็นเรื่องการเมืองไปหมด ไม่ใช่ว่าไปภาคเหนือทีก็บอกว่ารัฐไม่ยอมจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับคนภาคเหนือ พอไปภาคอีสานก็บอกว่ารัฐไม่ยอมจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับคนภาคอีสาน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เราคงไม่ได้เห็นภาพ ส.ส.ก้าวไกลวิ่งไปขอฉีดวัคซีนเป็นรายแรกๆ”