- นายกฯ ทีทีเอเอ นำทัพสมาชิกทัวร์ 900 บริษัท ปรับกลยุทธ์ตลาดไทยเที่ยวนอก
- แห่ซื้อทัวร์อาเซียนฮ็อตสุด 3 ประเทศ “สปป.ลาว-เวียดนาม-สิงคโปร์” 4 วัน 3 คืน ราคาไม่เกิน 20,000 บาท/คน/ทริป
- ส่วน “ยุโรป” สวิตเซอร์แลนด์ จอร์เจีย ตุรกี ครองตลาด
- ย้ำเอกชนยังต้องพึ่งรัฐอุดหนุนงบ “ทัวร์เที่ยวไทย” พร้อมเร่งประสานสิบทิศปลดสารพัดล็อกเดินทาง
- ทั้งวีซ่าสถานฑูตต่างประเทศในไทย แอร์ไลน์สเพิ่มที่นั่ง และเที่ยวบิน
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (TTAA -THAI Travel Agents Asssociation) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทนำเที่ยวซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมประคองตัวรอดวิกฤตโควิดอยู่ได้ประมาณ 900 บริษัท และมีปิดกิจการหายไปราว 10 % ที่จะร่วมมือกันฟื้นฟูตลาดให้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศตลอดปี 2565 อีกครั้งน่าจะไม่เกิน 10 % ของปี 2562 เพราะหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงระบบการเดินทาง กำหนดเงื่อนไขการเข้าออกอย่างเข้มงวด รวมทั้งยังไม่ได้เปิดเต็มที่แบบปกติ มีข้อจำกัดอีกมากบวกกับคนไทยกังวลเรื่องการเดินทางด้วย ต้องรอดูประมาณอีกครั้งแนวโน้มจะดีขึ้นช่วงปลายปี 2565 เมื่อทั่วโลกเปิดมากขึ้น
เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมคนไทยที่กำลังเตรียมวางแผนซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ยังคงนิยมประเทศจุดหมายปลายทาง 3 กลุ่มพื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่แรก “อาเซียน” เลือกเดินทางบกและทางเครื่องบิน ไปยัง “สปป.ลาว” คนไทยต้องการไปสัมผัสสินค้าใหม่ ๆ อย่างการท่องเที่ยวรถไฟความเร็วสูง กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในวังเวียง และอื่น ๆ ตามมาด้วย “เวียดนาม” ขณะนี้ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์เป็นสะพานสวยงาม สะพานแขวน สะพานแก้ว สะพานใส โดยได้พัฒนาแต่ละพื้นที่ไปไกลมากแล้ว และ “สิงคโปร์” เป็นอีกพื้นที่ซึ่งคนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี จะขายในลักษณะแยกเป็นห้องพัก รายการนำเที่ยว เนื่องจากมีเที่ยวบินเข้าถึงง่าย ไม่มีข้อจำกัดยุ่งยากมากนัก
ขณะนี้คนไทยกว่า 80 % เดินทางเที่ยวต่างประเทศเป็นหมู่คณะ (G.I.T.) ในราคาจับต้องได้ ซื้อแพกเกจท่องเที่ยวยอดนิยมเฉลี่ยครั้งละ 4 วัน 3 คืน ราคายอดนิยมที่นิยมซื้อเฉลี่ย 12,000-14,000 บาท/คน/ทริป และ 14,000-20,000 บาท/คน/ทริป เป็นราคาแพกเกจเหมาะสมในยุคข้าวยากหมากแพง ส่งผลดีกับบริษัทนำเที่ยวผู้ผลิตโปรแกรมวางขายยอดจองค่อนข้างเต็มทุกช่วงเวลา คงมีเพียง 20 % ที่เดินทางอิสระด้วยตนเอง (F.I.T.)
จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอาเซียนทั้ง 3 ประเทศ ส่วนใหญ่มีเที่ยวบินให้เลือกหลากหลาย การเดินทางเข้าถึงง่ายสะดวกรวดเร็ว รวมถึงนักท่องเที่ยวยังได้เผื่อความเสี่ยงเลือกประเทศใกล้ไว้ก่อน เพราะหากติดโควิด-19 สามารถบินกลับประเทศได้ทันที
พื้นที่ 2 “เอเชีย” คนไทยรอความหวังจะไปเที่ยว ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งส่วนใหญ่ยังเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้การอำนวยความสะดวกมีไม่มากพอที่จะเดินทางไปเที่ยวอย่างเสรีได้ครั้งละจำนวนมาก ๆเหมือนอดีต
พื้นที่ 3 “ยุโรป” ประเทศที่คนไทยจองเดินทางมากสุด สวิตเซอร์แลนด์ จอร์เจีย ตุรกี ส่วนประเทศที่เหลืออื่น ๆ ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกเรื่องหลักคือ “ยื่นขอวีซ่า” ตอนนี้การเข้ายุโรปมีอุปสรรคหลัก ๆ คือ 1.จะจ่องใช้เวลายื่นขอวีซ่ากว่าทางสถานฑูตจะตอบกลับใช้เวลานานมาก 2.หากต้องการวีซ่าเร็วต้องจ่ายธรรมเนียมวีซ่าแบบพรีเมี่ยมเพิ่มสูงกว่าปกติ
นายเจริญ กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2565 บริษัทนำเที่ยวเตรียมออกโปรแกรมทัวร์วางขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากสายการบินเริ่มเปิดเที่ยวบินมากขึ้น เช่น บางกอกแอร์เวย์ส เมื่อเร็ว ๆ นี้ เปิดบินตรงเวียดนาม รวมทั้งสายการบินอื่น ๆ ก็ทยอยเปิดด้วยเช่นกัน ทางสมาคมทีทีเอเอให้ความสำคัญกับทุกสายการบิน พร้อมทั้งร่วมโปรโมต แล้วก็ช่วยสมาชิกบริษัทนำเที่ยวได้ขายโปรแกรมทัวร์ ควบคู่กับพยายามทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางติดต่อประสานงานทุกเรื่องให้สมาชิกบริษัท แก้ไขปัญหาอุปสรรคให้กับทุกสายการบิน รวมทั้งการบินไทยทุกจุดหมายปลายทางก็ยินดีร่วมทำตลาดให้อย่างเต็มที่
สมาคมทีทีเอเอได้ช่วยสมาชิกขายการท่องเที่ยวหารายได้ “ตลาดในประเทศ” ควบคู่กันไปด้วย เพราะช่วงโควิด-19 กว่า 2 ปีเศษ ไม่สามารถจัดทัวร์ต่างประเทศได้ ต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทยจึงทำให้ธุรกิจอยู่ได้มาจนถึงวันนี้ ดังนั้นสมาชิกสมาคมประมาณ 90 % จึงมีทักษะความสามารถทำตลาดในประเทศอย่างมืออาชีพได้แล้ว และยังคงร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทุกเรื่อง โดยเฉพาะล่าสุดรัฐบาลมีนโยบายขยายโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” สนับสนุนงบประมาณให้คนในระเทศซื้อรายการนำเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2565 สมาคมทีทีเออีได้ให้สมาชิกเข้าร่วมขายให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับการขาย “ทัวร์เที่ยวไทย” ส่วนใหญ่สมาชิกเข้าร่วมการขายตั้งแต่เปิดเฟสแรกเมื่อเดือนมีนาคม-พฤษภาคม2565 โดยเน้นขายเส้นทางยอดนิยม ภูเก็ต กระบี่ สมุย อุดรธานี บึงกาฬ (เที่ยวถ้ำนาคา) ขณะนี้พยายามต่อยอดเส้นทางเชื่อมโยง พร้อมกับแนะนำลูกค้าที่ยังไม่สามารถเที่ยวต่างประเทศได้เลือกเที่ยวเมืองไทยไปก่อน แผนการตลาดแบบนี้เป็นกิจกรรมการตลาดที่สมาชิกทำกันอย่างต่อเนื่องตลอด
รวมทั้งยังให้สมาชิกทีทีเอเอทำกิจกรรมต่าง ๆ กับอีก 2 สมาคมหลัก คือ สมาคมท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ร่วมมือและถ่ายเทโนฮาวน์ให้กันและกัน เมื่อ ททท.นำเอกชนลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวเพื่อติดตามความคืบหน้าสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองไทย ก็ให้สมาชิกติดตามไปด้วยทุกแห่ง
นายเจริญย้ำว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยยังต้องการให้ภาครัฐเพิ่มแรงกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่องต่อไป ตามที่ททท.ทำมาตลอดเพราะภาพรวมภาคธุรกิจยังอ่อนแอต้องการการสนับสนุน ซึ่งเป็นส่วนที่ดีและช่วยเหลือต่อเนื่องอย่างเข้มข้นด้วยกาอัดฉีดเพิ่มเติมให้ “กลุ่มผู้ประกอบการรถบัสท่องเที่ยว” หากเป็นไปได้ช่วยกันปลุกตลาดบริษัทห้างร้านหันมาเที่ยวรถบัสโดยรัฐมีเงินสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่าย จะเป็นตัวกระตุ้นอย่างดี โดยไม่มีเงื่อนไขมากจุกจิกจนเกินไป เช่น โปรแกรมนั่งรถบัสท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ก็ให้เงินเสริมตรงไปยังบริษัทรถบัสเท่าที่ทำได้ ในทางปฏิบัติขอให้ลดข้อจำกัดมากที่สุดเพื่อให้ธุรกิจลุกขึ้นมายืนก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แล้วการท่องเที่ยวก็จะกลับสู่ปกติเหมือนเดิมในอนาคตอันใกล้ต่อไป
นายเจริญยืนยันว่า ขณะนี้คณะกรรมการสมาคมทีทีเอเอได้ทุ่มทำภารกิจเร่งด่วนเพื่อช่วยสมาชิก 900 บริษัท ประกอบด้วย 2 เรื่องหลัก เรื่องที่ 1 หาสินค้าท่องเที่ยวหรือโปรดักซ์ทำให้สมาชิกอยู่รอดต่อไปได้จนกว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะกลับสู่สถานการณ์ปกติ เรื่องที่ 2 เป็นศูนย์กลางประสานงานกับสถานฑูตต่างประเทศในไทย เกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่เปลี่ยนแปลงไป คอยอำนวยความสะดวก หากเกิดปัญหาจะเข้าไปช่วยทันที เรื่องใหญ่สุดคือ “การยื่นขอเอกสารวีซ่านักท่องเที่ยว” เนื่องจากหลายสถานฑูตลดการจ้างพนักงานลงไปพอสมควร ทำให้การติดต่อประสานงานหลังเปิดประเทศไม่สะดวกเหมือนเดิม ขณะนี้สมาคมพยายามเชิญแต่ละสถานฑูตมาให้ข้อมูลจริงกับสมาชิกในทุกมิติเพื่อฟื้นตลาดกลับมาโดยเร็ว
สำหรับ “ความต้องการ” ของสมาชิกสมาคมทีทีเอเอต้องการโอกาส 4 เรื่องดังนี้
1.การเข้าถึงทรัพยากรที่จะเป็นเครื่องมือการค้าขาย ทั้งการทำวีซ่ากับสถานฑูตต่างประเทศในไทย
2.การเจรจากับสายการบินต่าง ๆ ถึงการเปิดบินกับจำนวนที่นั่ง ขณะนี้มีเงื่อนไข ข้อจำกัด การเช็คอิน หรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพราะแต่ละสายการบินมีข้อปฏิบัติไม่เหมือนกัน
3.เงื่อนไขการเข้าแต่ละประเทศมีข้อตกลงต่างกัน ซึ่งสมาชิกอาจจะเข้าได้ยากทางสมาคมก็ต้องประสานงานให้ถึงมาตรการเดินทาง
4.ข้อมูลความจริงที่จะต้องนำมาตอบให้ผู้โดยสารหรือลูกค้าอย่างถูกต้องกับผู้ที่จะเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างราบรื่นทุกประเทศซึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
