- ททท.ผ่าแผน9จังหวัดเที่ยวตะวันออกปี’66ปั๊มรายได้ 1.1 แสนล้าน ชูขายท่องเที่ยวยั่งยืน” เดินหน้า 4 โปรเจกต์ไฮไลต์ Local to Global
- จับคู่ไทยกับตลาดอินเตอร์ 4 ต่อ 4 “ชลบุรี-ซาอุ/ระยอง-เกาะเจจู เกาหลีใต้ /ตราด-ญี่ปุ่น 2 จังหวัด โลว์คาร์บอน ส่วนในประเทศผนึก 4 คู่ 8 จังหวัด เน้นภาคกลาง กับอีสาน
- จ่อเปิดอลังการ “วิจิตรบูรพา” พ.ค.นี้ เนรมิตหาดระยองโชว์ซอฟท์เพาเวอร์แสงสีเสียงเมืองชายทะเล Amazing Twilight in Thailand @ The East
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี2566 ททท.6 สำนักงานในภาคตะวันออกได้รับเป้าหมายให้นำนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 9 จังหวัด ร่วมมือกันทำยอดผู้เยี่ยมเยือนให้ได้ 16 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 11 % สร้างรายได้ 1.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % จะต้องเพิ่มวันพำนักเฉลี่ยเกินกว่า 2 วัน/คน/ทริป ปีนี้เน้นเพิ่มจำนวนและรายได้จากตลาดเป้าหมาย 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก“ครอบครัว” ทางผู้ประกอบการโรงแรมปรับตัวเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกห้องพักมีห้องบริการสำหรับเด็กพร้อมสวนน้ำ และอื่น ๆ
กลุ่มที่ 2 คอร์ปอเรต/บริษัท องค์กรขนาดใหญ่ ที่จะช่วยขยายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs :Sustainable Tourism Goals ตามนโยบายหลักของผู้ว่าการ ซึ่งเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกได้ประกาศเดินหน้าเป็นผู้นำ Eastern Thailand The Destination for Sustainable Tourism จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
กลุ่มที่ 3 นักท่องเที่ยวสายกินแบบฟินและชิว วางกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าสู่ภาคตะวันออกต้อนรับซัมเมอร์ซึ่งเป็นฤดูทองทำรายได้ของผู้ประกอบการทั้งภาคด้วยจุดขายในธีม 1.“สบ๊าย สบาย สายชีล” ท่องเที่ยวทางทะเล2.สบ๊าย…สบาย สายกิน” เป็นเมืองสวนผลไม้และอาหารทะเลพร้อมเสิร์ฟ ตอบโจทย์ปิดเทอมตลาดหลัก ๆ ในประเทศทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครอบครัว โดยมี ททท.ในภาคตะวันออก 9 จังหวัด 6 สำนักงาน จะมีแคมเปญทยอยออกมาเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชวนกิน ชวนพัก แล้วรับของที่ระลึก คูปองส่วนลดท็อปอัพ สร้างมูลค่าเพิ่มเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปทำกิจกรรมตัวอย่าง ดำน้ำ เล่นกอล์ฟ ทำสปา
ระหว่าง เมษายน-มิถุนายน 2566 ท่องเที่ยวสวนผลไม้ จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มทุเรียนเลิฟเวอร์ ขับรถมาท่องเที่ยวสวนจันทบุรี ระยอง ตราด กับ นครนายก ปราจีนบุรี กระจายทั่วตะวันออก โดยมีนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มโดยเฉพาะActive Senior วางแผนจองโปรแกรมท่องเที่ยวไว้แล้ว รวมทั้งคาราวานบิ๊กไบค์ อีวีหรือรถยนต์ระบบไฟฟ้า ก็จะมากันอย่างคับคั่ง
นายอัครวิชย์ กล่าวว่าเตรียมส่งเสริมการขายรองรับนโยบายตลาดในประเทศ ททท. ประกอบด้วย โครงการที่ 1 Soft Power Tourism Booster Shot ช่วงซัมเมอร์นี้จะนำโครงการหลักเรื่อง F1 -Food หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหารทททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกจะทำต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ทั้งเรื่องอาหารทะเล อาหารถิ่น ตามด้วยอาหารเมนูพระรองผลไม้ ได้อรรถรสแปลกแตกต่างจากเดิม และรสชาติถูกปากมากขึ้น F2-Film จะร่วมกับสหมงคลฟิล์มผลิตภาพยนตร์เกี่ยวกับการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวนำเสนอเพื่อเจาะกลุ่มซีรีย์วาย และฟินอย่างแน่นอน
โครงการที่ 2 The Link Local to Global จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก Local to Global เชื่อมโยงเครือข่ายกับต่างประเทศ ขณะนี้มีตลาดกลุ่มเป้าหมายกับต่างประเทศ เริ่มจับคู่เป็นพันธมิตรดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ 3 คู่ได้แก่ 1.ชลบุรี-ซาอุดิอาระเบีย 2.ระยอง-หอการค้าเกาะเซจู เกาหลีใต้ เริ่มด้วยนำนักกอล์ฟชาวเกาหลีเดินทางเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมรวมอยู่ด้วย 3.เกาะหมาก จ.ตราด -จังหวัดโอสึ และจังหวัดฮากาเนะ ญี่ปุ่น ซึ่งพันธมิตรทั้งคู่ได้รับรางวัล The First Destination Low Carbon แหล่งท่องเที่ยวที่มีระบบการจัดการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
ส่วนที่สอง D to D หรือ Domestic to Domestic เชื่อมโยงเครือข่ายกันเองในประเทศ มีหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศเดินทางเข้ามาโดยเฉพาะเป็นพื้นที่ยอดนิยมของภาคอีสาน จึงได้นำร่องระหว่างกัน 4 คู่ 8 จังหวัด ได้แก่1.ชลบุรี-อุดรธานี 2.ตราด-น่าน ทำเรื่องจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน และกรีนเดสติเนชั่น3.จันทบุรี-อุบลราชธานีและนครราชสีมา 4.ระยอง-พระนครศรีอยุธยา 5.นครนายก-สมุทรสงคราม
โครงการที่ 3 Workation 100 เดียวเที่ยวได้งาน ซึ่งปีนี้ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้วางแผนรุกส่งเสริมการขายร่วมกับเอกชนทำแคมเปญกระตุ้น “เที่ยววันธรรมดา” ปี 2566 จะเจาะคอร์ปอเรต ทั้งองค์การปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ เน้นภาคกลาง กับภาคอีสาน จะส่งเมนูการศึกษาเรียนรู้ดูงาน เพื่อเลือกมาทำงานพร้อมกับพักผ่อนไปได้ด้วย
โครงการ 4 วิจิตร 5 ภาค ภาคตะวันออก เลือก “จังหวัดระยอง” เพราะสามารถตอบโจทย์ในชื่อ “วิจิตรบูรพา” จะจัดทั้งหมด 9 วัน ช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 นำเสนอการโชว์แสง สี เสียง ริมชายหาดระยอง เนรมิตโลกใต้ทะเลมาไว้ริมหาด เลือกทำเลแห่งนี้เพราะประชากรที่อาศัยอยู่มีศักยภาพสูง มีคนต่างถิ่นไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างสูงมาก นอกจากจะเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ว ยังเพิ่มเที่ยววันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ และกลางวันทัวร์สวนผลไม้ เยี่ยมชมใช้เงิน ต่อด้วยกลางคืนชมแสงสีเสียงวิจิตรบูรพาได้อย่างคุ้มค่า
สำหรับ “วิจิตรบูรพา” ททท.ภาคตะวันออก กำลังเสนอทำโปรเจกต์ Amazing Twilight in Thailand @ The East เป็นเรื่องของกิจกรรมทั้งหมดที่จะขึ้นทุกจังหวัดในตะวันออกภาคยามเย็นจึงจะใช้ชื่อไทยว่า “สนธยา มาหาสนุก” รอพบกับความสนุกแบบสบ๊ายสบายอย่างเต็มอิ่มได้ตลอดครึ่งหลังปี 2566 ในสไตล์ท่องเที่ยวภาคตะวันออกได้ตลอด365 วัน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
