สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์การเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีตัวเลขอัตราเติบโตลดลงถึง 22% ในขณะที่ทางการได้ทำการเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิดพุ่งสูงถึงวันละ 2.4 ล้านโดส ตัวเลขดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์รวมทั้งตัวเลขของเขตเมือง, รัฐและศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี)
ตัวเลขของซีดีซี ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชี้ว่า จำนวนประชากรของสหรัฐฯ ราว 21% ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส เพิ่มขึ้นจาก 18% จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยราว 11% ของประชากรรับวัคซีนเรียบร้อยแล้วจำนวนสองโดส เพิ่มขึ้น 9%
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่ได้รับรายงานในแต่ละสัปดาห์ลดลงแล้ว 9 สัปดาห์ติดต่อกันโดยลดลง 10% โดยต่ำกว่า 378,000 รายในรอบ 7 วัน วันเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ส่วนการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับไวรัสโควิด ลดลงต่ำกว่า 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนชาวอเมริกันว่าอย่าลดการเฝ้าระวังโดยชี้ไปที่การกลับมาของการติดเชื้อในหลายประเทศในยุโรปหลังจากที่พวกเขาผ่อนคลายมาตรการระยะห่างทางสังคม
“สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนสำหรับพวกเราทุกคน ตัวเลขของผู้ป่วย ได้เพิ่มขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นอีกในช่วงฤดูร้อนและการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกหากเราหยุดระมัดระวัง” ดร. โรเชล วาเลนสกีผู้อำนวยการ ซีดีซี กล่าวในวันจันทร์
เธอกล่าวด้วยว่า สำหรับการเดินทางทางเครื่องบินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นทำให้หลายคนต้องไปพักผ่อนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
โดยรายงานว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นใน 19 รัฐจาก 50 รัฐ เมื่อเทียบกับ สัปดาห์ก่อนหน้า เพิ่มขึ้นจาก 13 รัฐในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าตามการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์, นิวยอร์กและโรดไอส์แลนด์มีอัตราการติดเชื้อใหม่สูงสุดต่อประชากร 100,000 คน
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉลี่ยในโรงพยาบาลของสหรัฐฯลดลง 13% สู่ระดับ 38,000 รายซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม