ดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ ในแดนบวกกว่า 10 จุด สับสนตัวเลขเศรษฐกิจไม่ชัด

.ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบ ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวขยายต่ำกว่าคาด
.อย่างไรก็ตาม ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง สะท้อนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
.นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน

เมื่อเวลา 22.15 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,943.76 จุด เพิ่มขึ้น
10.53 จุด หรือ +0.03% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,573.26 จุด ลดลง 71.69 จุด หรือ -0.49% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,362.67 จุด ลดลง 11.63 จุด หรือ -0.27%

ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างสับสน ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา ในทิศทางที่คาดจะสดใสช่วยพยุงตลาด

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 360,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 386,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สอดคล้องกับที่ตัวเลขนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 3.24 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค

อย่างไรก็ตาม การผลิตของภาคโรงงานลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ภาคเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 1.4% ส่วนภาคสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 2.7%

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 21.9 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 จากระดับ 30.7 ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีภาวะธุรกิจจะอยู่ที่ระดับ 28.0 ในเดือนก.ค.

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ค. โโยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 11.2% ในเดือนมิ.ย. หลังจากดีดตัว 11.6% ในเดือนพ.ค.

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงในการซื้อขายวันนี้ โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แม้ธนาคารส่วนใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาด โดยมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

โดยระบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 1.85 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์/หุ้น และธนาคารมีรายได้ 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์