ดาวโจนส์เปิดบวกอีกครั้ง คลายกังวลสงครามการค้า-ตัวเลขเศรษฐกิจดี

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดขึ้นหลังทรุดต่ำวานนี้
  • ตัวเลขเศรษฐกิจจีน-สหรัฐฯออกมาไม่แย่เท่าที่คาด
  • นักลงทุนมีลุ้นเศรษฐกิจโลกไม่ซบเซารุนแรง

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาเปิดตลาดวันที่ 8 ส.ค.เป็นบวกได้อีกครั้ง โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 26,167.70 จุด บวกเพิ่มขึ้น 160.63 จุดหรือ +0.62% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิทอยู่ที่ 7,976.08 จุด เพิ่มขึ้น 113.26 จุด หรือ +1.44% ด้านดัชนีเอสแอนพี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 22,917.78 จุด บวกเพิ่มขึ้น 33.80 จุด หรือ+1.17%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฟื้นตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ โดยในช่วงเปิดตลาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.753% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.275% ซึ่งอัตราผลตอบแทนที่ปรับเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนลดความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯลง

ขณะเดียวกัน ตัวเลขการส่งออกของจีน และการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา ยังเป็นตัวจุดประกายให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะไม่แย่เท่าที่คาดไว้ โดยสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดนำเข้าเดือนก.ค.ปรับตัวลง 5.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 9.0% ขณะที่ยอดส่งออกเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้น 3.3% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0%

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 215,000 ราย

อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ สู่ระดับ “neutral” จากเดิมที่ระดับ “buy” โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งส่งผลต่อตลาดอุปกรณ์การก่อสร้างในจีนและอเมริกาเหนือ โโดยปรับลดตัวเลขเป้าหมายราคาหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ สู่ระดับ 130 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 156 ดอลลาร์ ส่งผลหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศปรับตัวลดต่ำลง

รวมทั้ง ราคาหุ้นของบริษัทคราฟท์ ไฮนซ์ทรุดตัวลงกว่า 13% ในวันนี้ หลังจากที่บริษัทชะลอการยื่นผลประกอบการประจำไตรมาส 1 และ 2 ต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ