.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค.
.นักวิเคราะห์ชี้เป็นผลของฐานต่ำ ไม่ทำให้เฟดปรับนโยบายการเงินเร็วขึ้น
.ตลาดแรงงานยังแกร่ง ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6
เมื่อเวลา 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ34,534.61 จุด เพิ่มขึ้น
87.47 จุด หรือ +0.25% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,952.31 จุด เพิ่มขึ้น 40.56 จุด หือ +0.29% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,231.53 จุด เพิ่มขึ้น 11.98 จุด หรือ +0.28%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังนักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากในวันนี้ มาฐานที่จากต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว และปัจจัยชั่วคราว ไม่น่าทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับนโยบายการเงินในทันที ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% อย่างไรก็ตาม ลดลงน้อยกว่า ในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.8%
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% หลังจากเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย.
ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 29 ปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลงโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.ยังมีสาเหตุจากราคารถยนต์มือสองและรถบรรทุกที่ทะยานขึ้นมากกว่า 7% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการเพิ่มขึ้นราว 1 ใน 3 ของการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนพ.ค. โดยการเพิ่มขึ้นของราคารถยนต์มือสองมักเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 376,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 15 เดือน หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานได้ปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ โดยต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 385,000 ราย แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 370,000 ราย
นอกจากนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 258,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. สู่ระดับ 3.5 ล้านราย