ดาวโจนส์ลดลงกว่า 155 จุด นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

.เฟด แอตแลนตา เผยเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งแสดงภาวะถดถอย
.นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอีกครั้ง หลังกังวลอัตราผลอตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น
.ตลาดจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ-ประชุมเฟดกลางเดือน มิ.ย.

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,025.02 จุด
ลดลง 155.12 จุด -0.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,173.59 จุด ลดลง 1.65 จุด หรือ -0.01%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,142.29 จุด ลดลง 18.39 จุด

นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลอง GDPNow tracker แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งจะเข้าเกณฑ์การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

GDPNow tracker บ่งชี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.9% ในไตรมาส 2 หลังจากหดตัวลง 1.5% ในไตรมาส 1 ทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงสูงที่เศรษฐกิจจะหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งกลับมาดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 3% หลังจากชะลอตัวลงวานนี้ ซึ่งดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเพื่อการจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 647,200 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.40% จากระดับ 5.33% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 6% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันศุกร์นี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ