ดาวโจนส์พุ่ง 554 จุด คาด “โจ ไบเดน” ชนะเลือกตั้ง

  • นักลงทุนซื้อหุ้นเก็งกำไร หลังคาด”ไบเดน”ชนะ “ทรัมป์”ขาดลอย
  • ระบุหากพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากทั้ง2สภาช่วยให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจคล่องตัว
  • มีแรงซื้อดันหุ้นขึ้นแทบทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มพลังงานลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3พ.ย.วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ 27,480.03 จุด เพิ่มขึ้น 554.98 จุด หรือ +2.06% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,369.02 จุด เพิ่มขึ้น 58.78 จุด หรือ +1.78% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,160.57 จุด เพิ่มขึ้น 202.96 จุด หรือ +1.85%

นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าผลอย่างเป็นทางการอย่างช้าที่สุดจะทราบในหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า

แซค แพนเดิล นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดปรากฎการณ์ “Blue Wave” หรือสถานการณ์ที่นายไบเดนสามารถเอาชนะประธานาธิบดีทรัมป์ และพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะเปิดทางให้คณะทำงานของนายไบเดนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเกือบทุกกลุ่มหลังโพลหลายสำนักบ่งชี้ถึงชัยชนะของนายไบเดน นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรมที่พุ่งขึ้นกว่า 2% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ทะยานขึ้น 4.09% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 3.15% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 2.53% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นฮันนีเวลล์ พุ่งขึ้น 3.23% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 3.4% หุ้น 3M บวก 1.5%

ยกเว้นหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.75% แม้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิป ดิ่งลง 3.04% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.74% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.46%

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 8.1% หลังจากเจ้าหน้าที่จีนได้สั่งระงับการนำหุ้นของแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคในเครือของอาลีบาบา เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้

นอกจากผลการเลือกตั้งแล้ว นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย. และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอยู่ในทิศทางฟื้นตัว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งดีกว่าเดือนส.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.6% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าจำพวกคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง