ดาวโจนส์ปิดลบ 102 จุด ขานรับทิศทางดอกเบี้ยยังขึ้นต่อ

.นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยงหลัง นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไปต่อ

.เฟดยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟด

.ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาต่ำคาด ช่วยกดดัชนีปิดแดนลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 21 มิ.ย.ที่ 33,951.52 จุด ลดลง 102.35 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,365.69 จุด ลดลง 23.02 จุด หรือ -0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,502.20 จุด ลดลง 165.09 จุด หรือ -1.21%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลงตามคาด หลังนายพาวเวลได้แถลงมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางปัจจุบัน

โดยย้ำว่าการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในการประชุมแต่ละนัด มากกว่าที่จะมีการตั้งธงกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า

“เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟด โดยการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงนั้น จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับที่ได้ประมาณการไว้ ส่วนตลาดแรงงานยังคงตึงตัว แม้มีสัญญาณบ่งชี้ภาวะที่ผ่อนคลายลง โดยประชาชนในวัย 25-54 ปีได้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ในขณะที่ค่าจ้างชะลอตัวลง”

นักลงทุนขานรับทิศทางดอกเบี้ยยังไปต่อ โดยให้น้ำหนัก 74.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายพาวเวลซึ่งจะแถลงวันที่ 2 ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ เวลาประมาณ 21.00 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริษัทผลิตชิป โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.33% หุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 1.74% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 2.07% หุ้นอินเทล ดิ่งลง 6%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาลงสู่ระดับ “Equal Weight” จากระดับ “Overweight” โดยระบุว่าการที่ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน

หุ้นเฟดเอ็กซ์ และหุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นสองบริษัทขนส่งพัสดุรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 2.5% และ 2.1% ตามลำดับ หลังจากเฟดเอ็กซ์เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัว โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.12% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.78% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 1.63%

หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนพุ่งขึ้น หลังจากราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 30,000 ดอลลาร์ โดยหุ้นคอยน์เบส หุ้นไรออท แพลตฟอร์มส์ หุ้นมาราธอน ดิจิทัล และหุ้นบิต ดิจิทัล ปรับตัวขึ้นราว 1.8% – 4.2%