ดาวโจนส์ปิดลดลง 112 จุด กังวลยูเครน-รัสเซียไม่มีทางออก-เงินเฟ้อพุ่งแรง

  • นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นต่อเนื่อง หลังการเจรจาระหว่างยูเครน-รัสเซียยังไม่พบทางออกยุติสงคราม
  • ดัชนีดิ่งแทยทุกกลุ่มอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. พุ่งขึ้นแรง 7.9% สูงสุดรอบ 40 ปี ยกเว้นพลังงานพุ่งต่อ
  • จับตาเฟดดอกเบี้ย กังวลเพิ่มความคุมเข้มนโยบายการเงิน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งรายงานที่ว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความล้มเหลว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 10 มี.ค.ที่ 33,174.07 จุด ลดลง 112.18 จุด หรือ -0.34%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,259.52 จุด ลดลง 18.36 จุด หรือ -0.43% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,129.96 จุด ลดลง 125.58 จุด หรือ -0.95%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบอีกครั้ง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากการเจรจาระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ไม่มีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว หรือการกำหนดเส้นทางปลอดภัยสำหรับชาวยูเครนที่จะอพยพออกจากประเทศ

นักลงทุนกังวลอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และทิศทางการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มนโยบายการเงิน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ.พุ่งขึ้น 7.9%ทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.8%

ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแสดงความแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 217,000 รายเล็กน้อย

วิลล์ คอมเพอร์นอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟเอชเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดถือเป็นการตอกย้ำว่าสหรัฐเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป โดยนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้อย่างใกล้ชิด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่่อ่อนไหวต่อการขึ้นดอกเบี้ยร่วงลง 1.76% โดยหุ้นแอปเปิล ดิ่งลง 2.72 หุ้นเทสลา ร่วงลง 2.41% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.01% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.74% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ร่วงลง 1.66%

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.11% หลังจากบริษัทประกาศยุติการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย โดยโกลด์แมน แซคส์นับเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขั้น 3.07% แม้ราคาน้ำมัน WTI ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.74% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 8.93% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.63%