- นักลงทุนซื้อหุ้นรับทุกรัฐขยายมาตรการล็อกดาวน์
- ตลาดคาดเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นแบบ V-shape ในไตรมาส 2
- จับตาประชุมเฟดคืนนี้ คาดยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,572.44 จุด เพิ้มขึ้นต่อเนื่องอีกขึ้น 461.46 จุด หรือ +1.70% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,232.39 จุด เพิ่มขึ้น 38.46 จุด หรือ +1.20% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,924.75 จุด เพิ่มขึ้น 110.66 จุด หรือ +1.13% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากทุกรัฐเริ่มขยายการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง
นอกจากนั้น ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่กลับมาเป็นบวก 2.5 ล้านคน ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มากในเดือนพ.ค. ยังทำให้ตลาดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในลักษณะ V-shape ในไตรมาส 2 ปีนี้
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 14.82% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 9.25% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 6.3% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 8.19%
หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 8.18% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ทะยานขึ้น 19.75% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 15.81%
ส่วนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกนั้น หุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 8.89% หุ้นโฮม ดีโปท์ บวก 0.68% หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 8.47% หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ พุ่งขึ้น 5.79% หุ้นนอร์ดสตรอม พุ่งขึ้น 4.16%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน แม้โอเปกพลัสจะตัดสินใจลดการผลิตต่อในเดือน ก.ค.เพียงเดือนเดียว โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.03% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.41% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 17.36% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 12.95%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนีแนสแด็ก ปิดทำลายสถิติสูงสุดเดิม และมีลุ้นที่จะแตะ 10,000 จุด โดยหุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 5.08% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 0.63% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.62% หุ้นแอปเปิล บวก 0.59% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.56% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 0.27%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 9-10 มิ.ย. เพื่อมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาดต่อไป
