.นักลงทุนกับมาซื้อหุ้นหลังดัชนีร่วงแรงในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังซึมซับผลกระทบเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ลดลง หลังเร่งขึ้นในช่วงก่อนหน้า
.นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ-ผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกที่จะทยอยประกาศออกมา
เมื่อเวลาประมาณ 22.03 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,105.46 จุด เพิ่มขึ้น
288.54 จุด หรือ +0.88% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,535.66 จุด เพิ่มขึ้น 140.71 จุด หรือ +1.23% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,011.59 จุด เพิ่มขึ้น 41.55 จุด
มีแรงกลับมาช้อนซื้อหุ้น หลังดัชนีร่วงลงต่อเนื่องในสัปดาห์่ก่อนหน้่า โดยนักลงทุนซึมซับความกังวลจากแนวโน้มการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนากลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกัยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากดีดตัวขึ้นในช่วงแรก
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ร่วงหลุดระดับ 4.8% หลังพุ่งทะลุระดับดังกล่าวในช่วงแรก แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 4.5% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลงเพียง 3.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือนธ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวลง 54.6% ของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.1% หลังจากร่วงลง 0.3% ในเดือนธ.ค.
นักลงทุนเกาะติดการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทกลุ่มค้าปลีกในสัปดาห์นี้ เพื่อจับตาผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์หน้า
