ดาวโจนส์บวกกว่า 50 จุด ขานรับผลประกอบการค้าปลีกดีกว่าคาด

.เมซีส์ อิงค์ และเบสท์บาย เปิดผลประกอบการและกำไรดีกว่าคาด

.บรรยากาศซื้อขายหุ้นผันผวน มีทั้งแรงซื้อและแรงขาย กังวลดอกเบี้ยเดินหน้าปรับขึ้น

. ตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,712.21 จุด เพิ่มขึ้น
50.37 จุด หรือ +0.15% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,300.35 จุด ลดลง 79.14 จุด หรือ -0.70%ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,935.03 จุด ลดลง 16.36 จุด หรือ -0.41%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทกลุ่มค้าปลีก โดยบริษัทเมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.71 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่บริษัทมีรายได้ 8.26 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่เบสท์บาย ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2565 โดยรายงานกำไรที่ระดับ 2.61 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.11 ดอลลาร์/หุ้น
มีรายได้ที่ระดับ 1.474 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.472 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งยังเป็นตัวกดดันบรรยากาศ โดยมองว่าเป็นส่วนทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังเดินหน้าต่อไป ทำให้มีแรงขายออกมาลดความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 190,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 195,000 ราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และอยู่ต่ำกว่าระดับ 200,000 รายติดต่อกันเป็นเวลา 7 สัปดาห์ ขณะที่ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 1.65 ล้านราย

สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งขึ้นใกล้ระดับ 5% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ยืนเหนือระดับ 4% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าและนานกว่าคาดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

างภาระให้ลูกหลาน ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท
.
นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 มีนาคม) จะให้นางกรณิศ เดินทางไปยังกระทรวงคมนาคม พบกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อยื่นหนังสือทวงพื้นที่คืนให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อประโยชน์สาธารณะที่มีความหมายต่อประเทศ และความมั่นคงเท่านั้น
.
“ เอาไปทำที่จอดรถไม่ได้ เอาไปสร้างสุขภาพให้พี่น้องประชาชนได้แล้วจะแถมพื้นที่ให้อีกด้วย ”
.
////////////////////