ดาวโจนส์กลับมาเปิดตลาดในแดนบวก หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยาต้านไวรัสโควิด-19

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมามีแรงซื้อสดใส หลังหลายบริษัทมีความคืบหน้าในการทดลองยาต้านไวรัส
  • ประธานาธิบดีทรัมป์เอาแน่ แผน “Opening Up America Again” 3 ระยะทยอยเปิดเมือง
  • ตลาดน้ำมันยังไม่สดใส ราคาดิ่งหลุด 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ กังวลอุปสงค์ลดต่อเนื่อง

เมื่อเวลาประมาณ 21.35 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 23,841.82 จุดเพิ่มขึ้น 304.14 จุดหรือ +1.29% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 8,587.55 จุด เพิ่มขึ้น 55.19 จุด หรือ +0.65%

ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,838.63 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด +1.40%
นักลงทุน กลับมาซื้อหุ้นหลังจากมีรายงานความคืบหน้าการผลิตยาต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งแนวทางที่ชัดเจนขึ้นในการกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง

STAT News ซึ่งเป็นนิตยสารด้านสุขภาพ รายงานว่า ผลการทดสอบยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ผลิตโดยบริษัท Gilead Sciences ของสหรัฐ พบว่า ยาดังกล่าวสามารถใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนหายดีได้ โดยรายงานระบุว่า ผลการทดลองยาในระยะ 3 ซึ่งดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับยา Remdesivir สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากอาการไข้ และปัญหาระบบทางเดินหายใจ โดยผู้ป่วยโควิด-19ที่ได้รับยาดังกล่าว มีจำนวน 125 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 113 ราย

ขณะที่นายพอล ฮัดสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Sanofi คาดว่า บริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 600 ล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า ถ้าหากการทดสอบทางคลินิคกับบริษัทแกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆ หลังมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยแผน “Opening Up America Again” จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยผู้ว่าการของแต่ละรัฐ จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตาาม ผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อความเช่ื่อมั่น และอุปสงค์รน้ำมันในตลาดโลก โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 12% หลุดระดับ 18 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนอกเหนือจากโควิด-19 แล้ว ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว