ดัชนีดาวโจนส์ บวกน้อย ๆ 20 จุด นักลงทุนรอดูการฟื้นตัวเศรษฐกิจ-ทิศทางดอกเบี้ย

.ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาในทิศทางสดใส ช่วยหนุนดัชนีตลาดในแดนบวก
.ผู้บริโภคมีวิตกเดลตาระบาดกระทบเศรษฐกิจ ส่งผลดัชนีความเชื่อมั่นดิ่งเหว
.ตลาดจับตาารประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล 26-28 ส.ค.นี้

เมื่อเวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ35,522.20 จุด เพิ่มขึ้น 22.35 จุด หรือ +0.06% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,829.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.31 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,464.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.71 จุด หรือ +0.08%

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยผลการสำรวจของนักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มที่จะรายงานตัวเลขกำไรพุ่งขึ้น 92.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 และบรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 88% มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยหุ้นดิสนีย์พุ่งขึ้นกว่า 3% ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด

อย่างไรก็ตาม ตลาดผิดหวังตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาวันนี้ โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 70.2 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากระดับ 81.2 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 81.2

ดัชนีปรับตัวลง ขณะที่ผู้บริโภคมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการจ้างงาน รวมทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.
ทั้งนี้ คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ไทม์ไลน์ของเฟดว่า เฟดจะเริ่มปรับลด QE ในเดือนม.ค.2565 ก่อนที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566