ดัชนีดาวโจนส์เปิดลบแคบๆ รอลุ้นผลเฟดที่เริ่มประชุมวันนี้

  • นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ครั้งนี้
  • หวั่นวิกฤตน้ำมันซาอุฯทำเงินเฟ้อพุ่งทั่วโลก
  • ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯปรับตัวแข็งแกร่ง

เมื่อเวลาประมาณ 21.40 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวในช่วงแคบ โดยอยู่ที่ 27,043.95 จุด ติดลบ 32.87 จุด หรือ -0.12%ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,146.06 จุด ติดลบ 7.49 จุด หรือ -0.09% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 แกว่งตัวบวกลบ โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,998.05 จุด บวก 0.09 จุดหรือ +0.00%

นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อจับตาการประชุมนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเริ่มต้นการประชุมในวันนี้ และจะสิ้นสุดการประชุมในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวแถลงการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดหลังการประชุมเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ล่าสุดของนักลงทุนผ่าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมมครั้งนี้ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ 100% ว่าเฟกจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ขณะนี้พบว่า มีโอกาสเหลือเพียง 65.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. ขณะที่มีโอกาส 34.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.00-2.25%

นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่เฟดอาจตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ มีสาเหตุจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันถึง 14% ในช่วงนี้ หลังเกิดเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรืออย่างน้อยคงอัตราดอกเบี้ย มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดไม่เร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ยังได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดยล่าสุด เฟดรายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากร่วงลง 0.4% ในเดือนก.ค.