“ญี่ปุ่น”สั่งซื้อยา “โมลนูพิราเวียร์”1.6 ล้านชุด เพิ่มเตียงอีก 30% รับมือโควิด

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีมติสั่งซื้อยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบรับประทาน จำนวน 1.6 ล้านโดส และเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลราวร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในช่วงฤดูร้อน

ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวที่การประชุมคณะทำงานพิเศษเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (12 พ.ย.) ว่าการรักษาระบบการแพทย์ที่อิงสถานการณ์จำลองอันเลวร้ายที่สุด และการขยายการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เราสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไปได้ แม้โรคระบาดกระจายออกไป

รัฐบาลญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงกับเมิร์ก แอนด์ โค (Merck & Co) บริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติอเมริกัน ในการจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดป้องกันเชื้อไวรัสฯ เข้าสู่ร่างกายหรือเพิ่มจำนวนในร่างกาย จำนวน 1.6 ล้านโดส โดยรัฐบาลฯ มีแผนอนุญาตให้ส่งยาตัวดังกล่าวไปยังบ้านของผู้ป่วย

นอกจากนั้นรัฐบาลฯ จะจัดสรรเงิน 2 พันล้านเยน (ราว 580 ล้านบาท) เพื่อพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 แบบรับประทานในประเทศด้วย

แผนรับมือโรคโควิด-19 ยังรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถรักษาโรคของโรงพยาบาลให้เพียงพอสำหรับผู้ป่วยประมาณ 37,000 รายภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากระหว่างญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดในช่วงฤดูร้อน ผู้ป่วยจำนวนมากต้องพักฟื้นที่บ้าน เพราะโรงพยาบาลมีเตียงจำกัด

เดิมทีรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเพียงร้อยละ 20 แต่ภายหลังปรับเพิ่มขึ้นหลังจากตรวจสอบข้อมูลระดับจังหวัดแล้ว

ทั้งนี้ หากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ที่แพร่ระบาดในญี่ปุ่นสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 3 เท่า รัฐบาลกลางจะเรียกร้องให้พื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงส่งบุคลากรการแพทย์ไปช่วยเหลือพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น