- กลับมาครองอันดับ 2 ผู้ส่งออกข้าวมากสุดในโลก
- เหตุมีข้าวหลากหลายพันธุ์สนองความต้องการตลาด
- ทั่วโลกแห่นำเข้าสต๊อกรับมือภัยแล้งจากเอลนีโญ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการมอบรางวัลประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ว่า ปี 66 ไทยน่าจะส่งออกข้าวทะลุ 8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ส่งออกได้ 7.7 ล้านตัน เพราะไทยมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ที่สนองตอบต่อความต้องการของตลาดมากขึ้น เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพิ่มขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย 5 ปี (ปี 63-67) ที่กำหนดจะพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ให้ได้ 12 สายพันธุ์ แบ่งเป็นข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ และข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์
แต่ขณะนี้ เพียง 3 ปี พัฒนาได้แล้ว 21 สายพันธุ์ โดยพันธุ์ข้าวที่ชนะการประกวดก่อนหน้านี้ กรมการข้าว ได้รับรองสายพันธุ์ เพาะเมล็ดพันธุ์ และส่งให้เกษตรกรปลูกแล้ว ส่วนพันธุ์ที่ชนะรางวัลครั้งนี้ ได้เร่งรัดให้กรมการข้าว รับรองพันธุ์ ทดลองปลูก และผลิตเชิงพาณิชย์โดยเร็ว ประกอบกับ ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่าปีก่อน และความต้องการข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น
“ปีนี้ เราน่าจะส่งออกได้ทะลุ 8 ล้านตัน ทำให้กลับมาเป็นอันดับ 2 ประเทศที่ส่งออกข้าวได้มากที่สุดในโลก จากที่ผ่านมา บางปีเราอยู่อันดับ 2 บางปีอันดับ 3 ในอนาคต และภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวนี้ ที่ทำให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ จำนวนมาก ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ไทยจะกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้อีกแน่นอน”
สำหรับการประกวดข้าวพันธุ์ข้าวครั้งนี้ รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวหอมไทย ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-06, รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-08 และรางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นแข็ง ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-13 โดยบริษัทรวมใจพัฒนาความรู้ จำกัด (มูลนิธิรวมใจพัฒนา) ทั้ง 3 รางวัล
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปีนี้ คาดว่า ไทยจะส่งออกข้าวได้ 4 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปี 65 ที่ส่งออกได้ 3.51 ล้านตัน และทั้งปี 66 น่าจะได้มากกว่า 8 ล้านตัน เพราะขณะนี้ ทั่วโลกกังวลปัญหาภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ จึงเร่งนำเข้า และช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เวียดนาม จะมีข้าวเหลือส่งออกไม่มากนัก เพราะช่วงครึ่งปีแรกส่งออกไปแล้วกว่า 4 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปติ อีกทั้งราคาข้าวไทยขณะนี้แข่งขันได้ เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า
“ครึ่งหลังปีนี้ เป็นโอกาสของข้าวไทยแน่นอน เพราะเวียดนาม เหลือข้าวส่งออกไม่มาก และหากเอลนีโญ รุนแรงมาก จนกระทบต่อผลผลิตข้าวของจีน และอินเดีย ก็จะเป็นโอกาสของไทย และจะช่วยผลักดันให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นได้อีก จากปัจจุบัน ข้าวขาว 5% ไทยตันละ 500 เหรียญสหรัฐฯ เวียดนาม 510 เหรียญฯ อินเดีย 480 เหรียญฯ และแม้เอลนีโญ จะกระทบต่อผลผลิตข้าวไทย แต่เชื่อว่า ไทยจะมีข้าวเหลือส่งออกแน่นอน”
นอกจากนี้ สมาคม ได้ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปพบปะเจรจากับผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไทย ทั้งฮ่องกง จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน ที่ทำสัญญาซื้อไทย 1 ล้าน และยังเหลือที่จะต้องซื้ออีก 280,000 ตันนั้น จากการหารือกับคอฟโก รัฐวิสากิจของจีนที่นำเข้าข้าว ได้รับการยืนยันจะซื้อจากไทยให้ครบตามสัญญา
