.เหตุเป็นผู้ผลิตรายใหญ่และบริจาคให้หลายประเทศแล้ว
.เดินหน้าดันความร่วมมือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ 7 สาขา
.เพิ่มเติมจากเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลียคาดลงนามได้ปีหน้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายแดน เทฮัน รมต.การค้าการท่องเที่ยว และการลงทุนของออสเตรเลีย ผ่านระบบการประชุมทางไกลว่า ได้ขอให้ออสเตรเลียพิจารณาบริจาควันซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับไทย เพราะออสเตรเลียเป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตราเซเนการายใหญ่แห่งหนี่งของโลก และที่ผ่านมา ได้บริจาคให้หลายประเทศแล้ว ซึ่งรมต.ออสเตรเลียรับจะประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาตามที่ไทยเสนอ
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการจัดทำความร่วมมือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เพิ่มเติมจากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ออสเตรเลีย ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันแล้วเกือบทุกรายการ ซึ่งที่ผ่านมา ไทยได้เสนอ 7 สาขาที่ไทยมีความพร้อม ให้ออสเตรีเลียพิจารณาแล้ว ได้แก่ เกษตรแปรรูป-อาหาร, ท่องเที่ยว, บริการสุขภาพ, การศึกษา, อี-คอมเมิร์ซ, เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และอื่นๆ เช่น พลังงาน ลงทุน คาดว่า จะมีการลงนามความร่วมมือกันได้ในปีหน้า
ขณะที่การให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) จากล่าสุด สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีนให้สัตยาบันไปแล้วนั้น ได้แจ้งว่า ไทยจะให้สัตยาบันราวเดือนต.ค.หรือพ.ย.64 ส่วนออสเตรเลียก็เช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ สมาชิกทุกประเทศกำลังเร่งการให้สัตยาบัน เพื่อให้ความตกลงใช้บังคับตามเป้าหมายต้นปี 65
