“จุรินทร์”ลั่นใครโหวตสวนมติพรรคต้องรับผิดชอบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปิดโครงการอบรมยุวประชาธิปัตย์ รุ่น1 ปี2562 พร้อมใช้โอกาสนี้ กล่าวถึงอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์คือ อุดมการประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็น อุดมการที่จะทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน และอุดมการณ์ในการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งระบบรัฐสภาแตกต่างจากระบบประธานาธิบดี ที่ประชาชนเลือกมาโดยตรงอยู่ครบ4 ปีไม่มียุบสภา ส.ส. ส.ว. เลือกมาก็อยู่จนครบวาระ ไม่ต้องรับผิดชอบเหมือนระบบรัฐสภา

ดังนั้นการลงมติหรือโหวตเสียงในสภาของระบบประธานาธิบดี เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวจะโหวตให้รัฐบาลแพ้หรือชนะก็ได้ ไม่มีผลให้ผู้นำต้องลาออก แต่ของไทยคือ ระบบรัฐสภา รัฐบาลจะอยู่ได้ด้วยเสียงข้างมาก เพราะรัฐบาลจัดตั้งได้ด้วยเสียงข้างมาก ในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะอยู่ไม่ได้ เพราะเมื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเสนอกฎหมายไม่ผ่านต้องยุบสภา เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจึงมีความสำคัญอย่างมากกับรัฐบาลในระบบรัฐสภา

เพราะฉะนั้นจึงต้องมีวิปรัฐบาลคอยรวบรวมเสียงให้รัฐบาลคงเสียงข้างมากไว้เสมอ ดังนั้นการเป็นรัฐบาลผสมพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะมีมติพรรค แต่สุดท้ายมติพรรคต้องถูกนำไปหารือในวิปรัฐบาลเพื่อเป็นมติร่วมกัน ซึ่งเมื่อวิปรัฐบาลมีมติอย่างไร ต้องนำมาสู่ที่ประชุมพรรค หากพรรคไม่เห็นด้วยก็ต้องนำไปหารือในวิปรัฐบาลอีกครั้ง จนกว่าจะมีมติเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งเมื่อเป็นมติของวิปรัฐบาลแล้วทุกพรรคจะต้องทำตาม ไม่ใช่ปฏิบัติไปตามเอกเทศของแต่ละพรรคหรือแต่ละบุคคล

แต่ถ้าใครคิดว่าไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ต้องตัดสินใจทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากเสียงในสภาการเคารพมติพรรค มติวิป จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องฟังมติพรรค มติวิป เพราะนี่คือระบอบประชาธิปไตย