จำกัดการซื้อหน้ากากอนามัยไม่เกินคนละ10ชิ้นมีผลพรุ่งนี้

  • กรมการค้าภายในขอความร่วมมือห้าง-ร้านสะดวกซื้อ
  • หวังให้สินค้ามีเพียงพอ-ประชาชนซื้อได้อย่างทั่วถึง
  • ย้ำใครซื้อไม่ได้-ราคาแพงแจ้งสายด่วนโทร.1569

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อว่า ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ค้าจำกัดการซื้อหน้ากากอนามัยของประชาชน โดยจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกินคนละ 10 ชิ้น แต่บางห้างอาจจะขายให้ได้ไม่เกิน 4 หรือ 5 ชิ้น แล้วแต่สต๊อกของผู้ค้าแต่ละราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.นี้เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนซื้อได้อย่างทั่วถึง แต่ถ้าการขอความร่วมมือยังไม่สามารถทำให้สินค้ากระจายได้อย่างทั่วถึง กรมจะใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ออกมาตรการบังคับให้ห้างจำกัดการขายต่อไป อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ ยังไม่ครอบคลุมร้านขายยา และร้านค้าทั่วไป

สำหรับการนำหน้ากากอนามัยและวัตถุดิบ รวมถึงเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เข้าสู่บัญชีและบริการควบคุม โดยมีผลใช้บังคับไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 นั้น ส่งผลให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้ค้า รวมถึงตัวแทนจำหน่าย ต้องแจ้งสต๊อกสินค้า ปริมาณการผลิต ปริมาณการนำเข้า ปริมาณการส่งออก ราคาซื้อ ราคาขาย ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มายังกรมภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้

ส่วนผู้ที่จะส่งออกหน้ากากอนามัย ตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป จะต้องขออนุญาตกรมก่อน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยทุกราย จะต้องจัดสรรหน้ากากอนามัยบางส่วนมาให้ศูนย์บริหารจัดสรรหน้ากากอนามัย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้กระทรวงจัดสรรไปให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อนอย่างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ให้บริการนักท่องเที่ยว อย่างพนักงานโรงแรม บริษัททัวร์ รวมถึงผู้ป่วย ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยให้เริ่มจัดสรรตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.นี้เป็นต้นไป พร้อมกันนั้น กรมจะนำไปกระจายผ่านร้านธงฟ้า ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 120,000 ร้านด้วย

”มาตรการเหล่านี้ เพื่อให้มีหน้ากากอนามัยเพียงพอใช้ในประเทศ เพราะขณะนี้ ความต้องการใช้เพิ่มมากถึงเดือนละ 50-60 ล้านชิ้น จากช่วงปกติ 30 ล้านชิ้น เต็มกำลังการผลิตของแต่ละโรงงานแล้ว และส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออก จึงต้องหามาตรการเข้มงวดกับการส่งออกก่อน แต่ถ้าผู้ผลิตรายใดทำสัญญาซื้อขายกับต่างประเทศไว้แล้ว จะพิจารณาอนุญาตเป็นรายๆ ไป”

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ประชาชนจำนวนมากถึง 1,022 ราย ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยมายังกรมผ่านสายด่วนโทร.1569  ส่วนใหญ่ร้องเรียนว่า หาซื้อยาก และราคาแพง ซึ่งกรมได้ทยอยตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ส่งสายตรวจเฉพาะกิจ 10 สายไปตรวจสอบสถานการณ์จำหน่ายในกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัด สำนักงานพาณิชย์ ได้ตรวจสอบด้วยเช่นกัน