จับตา!!ทิศทางตลาดหุ้น-ค่าเงินบาท

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟื้นตัวกลับมาปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,646.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.94% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 57,927.31 ล้านบาท ลดลง 23.38% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.31% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 351.11 จุด  

ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์ โดยภาพรวมนักลงทุนรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ทั้งตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.ของไทย ซึ่งออกมาดีกว่าคาดการณ์ ช่วยหนุนดัชนีฯให้ฟื้นกลับมาได้ช่วงกลางสัปดาห์ หลังร่วงลงแรงในวันก่อนหน้าตามแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ 

สำหรับสัปดาห์นี้ (26-30 ส.ค.62) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,635 และ 1,620 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,655 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของไทย สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์การเมืองในอิตาลี 

รวมถึงประเด็นความเสี่ยง BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/62 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. ของจีน รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ของญี่ปุ่น

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินบาททยอยแข็งค่าช่วงต้น-กลางสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 

ทั้งนี้แม้นักลงทุนต่างชาติจะมีสถานะขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นไทยในระหว่างสัปดาห์ แต่เงินบาทก็ยังคงแข็งค่าได้ต่อเนื่องจนถึงปลายสัปดาห์

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.2562 เงินบาทอยู่ที่ 30.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ส.ค.2562)

สำหรับสัปดาห์นี้ (26-30 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.65-30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตามุมมองของตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ภายหลังสุนทรพจน์ของประธานเฟด

ขณะที่ ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย สถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และ BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดในประเทศอาจรอติดตามรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ค. ของธปท. ในช่วงปลายเดือนด้วยเช่นกัน