เพิ่งทำงานครั้งแรก กำลังอยากก่อร่างสร้างตัว เริ่มอยากมีทรัพย์สิน อยากมีชีวิตที่สะดวกชีวิตมากขึ้น แต่ “จะซื้อรถหรือซื้อบ้านก่อนดี” คงจะเป็นคำถามที่ถามตัวเองหรือคนข้างๆ ของหนุ่มๆสาวๆ
เพราะ “บ้าน”ก็ถือเป็นสินทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สุด ที่ทุกคนอยากมีเพื่อความมั่นคงของชีวิต ขณะที่รถยนต์ ก็เปรียบเสมือนปัจจัยที่ 5 ที่ 6 ของชีวิต แต่จะให้ดาวน์ให้ผ่อนส่งพร้อมกันก็คงไม่ไหว เพราะเงินเดือนน้อยมีเรื่องให้ใช้สอยอีกมาก
เรามี 3 ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ มาเสนอให้อ่านกัน
ปัจจัยแรก คือ “ความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอย” ซึ่งต้องหาคำตอบก่อนว่า สำหรับตัวเราแล้วต้องการ “บ้าน” หรือ “รถยนต์” มากน้อยแค่ไหน สิ่งไหนจำเป็นกว่า
เช่น หากเราเป็นคนต่างจังหวัด มาเรียนมาทำงานในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา เช่าบ้านหรือ เช่าหอพักมาตลอดหลายปี เสียเงินค่าเช่าเกือบเท่าค่าผ่อนรายเดือน อยากจะลงหลักปักฐาน บ้านก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่ถ้าอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และไม่ได้มีความจำเป็นต้องแยกบ้าน การซื้อบ้านก่อนอาจจะไม่จำเป็นมากนัก
ขณะที่ “รถยนต์” เป็นเรื่องการเดินทาง คงต้องถามตัวเองว่า บ้านอยู่ในซอยลึกไหม เดินทางไปทำงานสะดวกหรือไม่ ต้องต่อรถหลายทอดหรือทอดเดียว ที่สำคัญจำเป็นต้องใช้รถประกอบอาชีพหรือไม่ ถ้าสรุปว่า เป็นคนบ้านไกล ของมันต้องมีใช้ “รถยนต์”ก็ถือว่าสำคัญมากกว่า
ปัจจัยที่ 2 การเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ไม่ว่าบ้าน หรือรถยนต์ สิ่งที่ต้องพิจารณารองลงมาจากความจำเป็น คือ เราพร้อมจะเป็นหนี้หรือยัง และที่สำคัญความสามารถในการชำระหนี้มีพอหรือไม่
เพราะถ้าเราก่อนี้เกินกำลัง อาจจะกระทบต่อชีวิตประจำวันส่วนอื่นของเราได้ โดยต้องดูว่า แต่ละเดือนรายจ่ายที่เราต้องกินต้องอยู่ ซื้อเสื้อผ้า สันทนาการต่างๆ รวมกับหนี้ที่มีอยู่ เช่น หนี้บัตรเครดิต รวมเป็นเงินเท่าไร และเราเหลือเงินไว้ผ่อนส่งมากแค่ไหน ซึ่งหากจะให้มีสุขภาพการเงินที่ดีแล้ว ภาระหนี้ไม่ควรเดินเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน
ยิ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งทำงาน เพิ่งสร้างเครดิตกับแบงก์จะต้องรักษาประวัติการเงินให้ดี เกิดผิดนัดชำระหนี้ นอกจากต้องจ่ายดอกเบี้ยผิดนัดซึ่งแพงจัดแล้ว ประวัติเครดิตก็เสีย ติดตัวแดงเครดิตบูโร อาจจะขอสินเชื่อไม่ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม กรณีผ่อนส่งนี้ มีหลายคนให้ความเห็นว่า เงินเดือนยังน้อย กู้บ้านไม่น่าผ่าน เลือกผ่อนรถก่อน เพราะรถหมดเร็วจากนั้น ถึงเเงินเดือนเพิ่ม ค่อยผ่อนบ้าน แต่บางคนบอกผ่อนรถคันแรก ผ่อนจบก็มีคันที่ 2 ที่ 3 ตามมา ดังนั้นซื้อบ้านก่อน พอเงินเดือนขึ้น ค่อยกู้เพิ่มผ่อนรถดีกว่า
อันนี้แล้วแต่ละสะดวก แต่ถ้าซื้อรถก่อนและตั้งเป้าผ่อนบ้านต่อ กูรูแนะว่า ควรผ่อนรถให้หมดภายใน 4 ปี
ขณะที่ปัจจัยที่ 3 ถือเป็นตัวแถมหลังจากที่ตัดสินใจซื้อรถ หรือบ้านแล้ว แต่ขอบอกว่า “เรื่องยังไม่จบ” เพราะเราต้องรับค่าใช้จ่ายที่งอกตามมา ทั้ง “ค่าส่วนกลาง”หากเราซื้อบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม ค่าประกันภัย ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ดังนั้น เตรียมเงินส่วนนี้ไว้ด้วย ไม่ใช่ซื้อรถมาไม่กล้าวิ่ง เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมัน
เขียนมาตั้งยาว หวังว่าคงช่วยให้คิดถึงสถานการณ์ของคุณได้ว่า “บ้านหรือ”รถที่จ่ายไหว และอะไรจำเป็นกว่ากัน
