ความหวัง “คนละครึ่ง”​ ริบหรี่ “คลัง”​ โอดใช้เงินประมาณเยอะ ไทยกู้เงินเยอะแล้ว

  • นายกฯให้ไปหาแหล่งเงิน เพื่อใช้โครงการที่จำเป็น
  • เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น คนกลับมาทำงานแล้ว
  • ถ้าจะกู้เงิน ต้องดูเรื่องของวินัยการเงินการคลัง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวออกมาที่ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังหาแหล่งเงินกู้ และผลักดันโครงการ “คนละครึ่งเฟส5” นั้น อาจเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะจากที่มีการหารือกัน คือ ให้กระทรวงการคลัง ไปพิจารณาแหล่งเงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการที่มีความจำเป็น โดยไม่ได้พุ่งเป้าที่การกู้เงิน และได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง (สศค.)​ไปพิจารณารายละเอียดต่างๆ รวมถึงการประเมินภาวะเศรษฐกิจ และความจำเป็นในการเข้าไปดูแล หรือ ออกมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่มไปแล้ว และส่วนใหญ่ใช้งบกลาง เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบต่อไป

“เรากู้เงินเยอะแล้ว เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ บางประเทศก็มีการกู้เงินจำนวนมากกว่าเรา และขณะนี้หลายประเทศก็เริ่มเข้าสู่การฟื้นฟู่เศรษฐกิจแบบปกติ ก็คือ เน้นไปที่การลงทุน ในส่วนของไทยก็คือการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน และเราต้องดูเรื่องของวินัยการเงินการคลังด้วย แม้ขณะนี้รายได้ของรัฐจะเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 64 ก็ตาม”

ส่วนโครงการ “คนละครึ่งเฟส5” นั้น นายอาคม กล่าวว่า ยังต้องพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่ เพราะเนื่องจากเป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณสูง และกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ขณะที่การแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนนั้น ก็ช่วยในระดับหนึ่งในช่วงที่ยังเผชิญปัญหาเรื่องรายได้ แต่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ รายรับของประชนชนเริ่มกลับมา ก็ควรจะลดมาตรการดังกล่าวลง และเข้าไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อทำให้ประชาชนกลับมามีรายได้เพิ่ม ซึ่งขณะนี้ก็ได้ผลักดันมาตรการผ่านแบงก์รัฐแล้ว

นายอาคม กล่าวอีกว่า ขณะที่ความคืบหน้าการใช้จ่ายภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้เพิ่มเติม 500,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ก็ยังกู้ไม่หมด คาดว่าเหลืออีกประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งการจะกู้ก็ต้องดูในเรื่องของความจำเป็นในการเงิน และเป็นการทยอยกู้ ไม่ใช่กู้มารอไว้