ครม.จ่อถกขอความเห็นชอบเปิดรัฐสภาถกผ่าทางตันการเมือง

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี กรณีมีการเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาการเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ จะมีการหารือในที่ประชุมครม.หรือไม่ ว่า จากที่ตนเข้าร่วมประชุมกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ที่ประชุมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีความคิดเห็นตรงกันสมควรที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะมีการล่ารายชื่อเพื่อให้เปิดประชุมหรือไม่ แต่ก็มีทางออกอีกครั้งหนึ่ง และให้นายชวนทำหนังสือเสนอมายังครม. เพื่อขอความเห็นชอบ เปิดประชุมวิสมัญ เพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 165 โดย เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.)นายชวนหลีกภัยได้รีบทำหนังสือ ส่งมายังนายกฯเพื่อให้ทันในการประชุมครม.วันนี้

ส่วนกรณีที่ว่าในที่ประชุมมีการกำหนดหรือไม่ว่าจะเปิดประชุมกี่วันนั้นว่า มติที่ประชุมเพียงยื่นมาแค่ขอเปิดประชุมรัฐสภาเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าเป็นวันไหนเพราะต้องมีขั้นตอน ในการออกพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งยังไม่ทราบขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งครม.จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เวลากี่วัน

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่ารัฐบาลต้องการให้ที่ประชุมรัฐสภาคลื่คลายสถานการณ์ในประเด็นไหนบ้าง นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ก็ต้องไปพูดคุยกันเรายังไม่ได้สรุปประเด็น ว่าเปิดประชุมแล้วจะพูดไปไหนบ้างจะคุยประเด็นใดบ้าง แต่ทุกปัญหาจะนำเข้าสู่ที่ประชุม

ต่อมาผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะยังไม่รอการประชุมของรัฐสภา เพราะมีการยื่นเงื่อนไข ให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ภายใน 24 ชั่วโมงนี้ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นความเห็นที่แตกต่าง ยืนยันว่าความเห็นที่แตกต่าง จะต้องนำไปพิจารณาในสภา เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องอื่นๆเป็นเพียงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ตนพูดในฐานะสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ในสังคมประชาธิปไตยการเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าการบังคับหรือขู่เข็ญไม่น่าจะใช่เรื่องที่ถูกต้อง และบางเรื่องจุดยืนของแต่ละพรรคมีอยู่แล้ว เช่นต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน ฉะนั้นจุดยืนแต่ละฝ่ายก็มี จึงอยากฝากถึงผู้ชุมนุมและนักศึกษาว่าสิ่งที่เราพยายามทำนั้นทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ทุกความเห็นจะต้องไปในทิศทางเดียวกันคงต้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน

อย่างไรก็ตามทุกคนอยากเห็นว่าเวทีรัฐสภา สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้หรือไม่ในฐานะนักการเมืองเราอยากทำตรงนั้นให้เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าอาจใช้เวลาพูดคุยในสภาประมาณ 1-3 วัน เชื่อว่าคงจะสะเด็ดน้ำแล้ว ว่าจะไปในทิศทางไหน

“แม้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงเราก็เห็นตรงกันว่ามีค่าสำหรับการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราจะมีมติออกมาร่วมกัน ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็อยากเห็นความสงบสุข”นายอนุชา กล่าว และว่า ส่วนหากการประชุมผ่านไปแล้วแต่ม็อบยังคงอยู่ก็ค่อยว่ากัน หาวิธีที่จะมีบทสรุปร่วมกันอย่างสันติวิธี”นายอนุชา กล่าว