คมนาคมเรียก BEM ถกตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินถึงสิ้นปี

ลุ้นกระทรวงคมคมนาคมหารือรฟม. และเจรจากับ  BEM ตรึงค่าโดยสารสายสีน้ำเงิน  ที่ต้องปรับราคา 4 สถานีตามดัชนีราคาผู้บริโภค  เพิ่มขึ้นสถานีละ 1 บาท  โดยจะขอให้ตรึงในราคาปัจจุบันไปถึงสิ้นปี 65  

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า ในวันนี้(29มิย) เวลา 11:00 น.   นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมีการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  หรือ รฟม  และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในปัจจุบัน ซึ่ง BEM  เป็นผู้ถือสัมปทานบริหารการเดินรถจาก รฟม. เจ้าของโครงการ

โดยการเจรจาวันนี้ทางกระทรวงคมนาคมมีความต้องการที่ขอให้ BEM  ตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินออกไปก่อน  จากที่ตามสัญญาสัมปทานจะมีการปรับราคาในทุก2 ปีตามดัชนีราคาผู้บริโภค  หรือดัชนีเงินเฟ้อ  ซึ่งปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากจากภาวะราคาน้ำมันแพง และสินค้าต่างๆ  รวมทั้งการพิจารณาตามอัตราเงินเฟ้อนั้นจะแยกพิจารณาเป็นรายสถานี  ตามสัญญาสัมปทานเนื่องจากแต่ละสถานีนั้นมีจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นจากสถานีไม่เท่ากัน

ทั้งนี้จากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันจะมี4 สถานี ที่ต้องมีการปรับราคาขึ้น  1 บาท  โดยนายศักดิ์สยาม จะเจรจาขอให้คู่สัมปทานยังตรึงค่าโดยสารในอัตราเดิมไปจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อบรรเทาปัญหา  ลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เสนอเรื่องการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล หรือ MRT ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ, หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ตามสัญญาสัมปทานกำหนดให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่ทุกๆ ระยะเวลา 24 เดือน (2 ปี) โดยพิจารณาตามดัชนีผู้บริโภค (CPI)  ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 โดยปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1 บาท จำนวน 4 สถานี คือ สถานีที่ 6, 9, 11, 12 โดยจะทำให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 17 บาทสูงสุด 43 บาท