คนฮ่องกงตื่นตุนข้าว-อาหารรับโควิด-19

  • ดันราคาข้าวไทยพุ่งขึ้นแท่นอันดับ1
  • แห่ซื้อข้าวหอมมะลิไทยมากที่สุด
  • ส่วนหมูไทยส่งออกไปฮ่องกงอันดับ3

นางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฮ่องกงเร่งนำเข้าข้าวจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาก เพราะชาวฮ่องกงตื่นตระหนักกับการตุนอาหารเพื่อบริโภคในช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นเช่นกัน โดยในเดือนม.ค.63 ราคาข้าวไทยที่ขายในฮ่องกงอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 13.05 เหรียญฮ่องกง แต่ในเดือนก.พ.63 เพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 14.22 เหรียญฮ่องกง และเดือนมี.ค.63 อยู่ที่กก.ละ 17 เหรียญฮ่องกง ซึ่งสูงกว่าราคาของคู่แข่งอย่างเวียดนามมาก

“ในช่วง 2 เดือนแรกปี 63 หรือเดือนม.ค.-ก.พ. ฮ่องกงเร่งนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 58.12 ล้านเหรียญฮ่องกง ขยายตัว 16.63% หรือนำเข้ามากถึง 57,957 ตัน โดยเป็นการนำเข้าจากไทย 36.80 ล้านเหรียญฮ่องกง สัดส่วน 63.33% ขยายตัว 13.96% ซึ่งไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ได้ ตามด้วยเวียดนาม สัดส่วน 14.36%, กัมพูชา 8.52%, ญี่ปุ่น 4.59% และจีน 4.01%”

สำหรับชนิดข้าวที่ฮ่องกงนำเข้าจากไทยมากที่สุดคือ ข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวพรีเมียม ที่นิยมในกลุ่มแม่บ้าน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ชาวฮ่องกงในกลุ่มรักสุขภาพ เริ่มหันมาบริโภคข้าวชนิดใหม่จากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะข้าวแดง หรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวกข43 แต่เกิดภาวะขาดแคลนในฮ่องกง เพราะความต้องการบริโภคในไทยสูงขึ้นมาก ทำให้ราคาข้าวทั้ง 2 ชนิดในฮ่องกงสูงขึ้นกว่าราคาข้าวหอมมะลิแล้ว

นางชณันภัสร์ กล่าวต่อถึงการส่งออกหมูของไทยไปฮ่องกงว่า ขณะนี้ ไทยขึ้นเป็นอันดับ 3 ประเทศที่ส่งออกหมูไปฮ่องกงมากที่สุด หลังจากที่จีน ผู้ส่งออกหมูรายใหญ่ให้กับฮ่องกง เกิดโรคอหิวาต์แอฟริการะบาดในหมู ทำให้ต้องกำจัดหมูหลายล้านตัว และฮ่องกงจึงต้องนำเข้าจากไทยทดแทน เพราะไทยไม่มีการระบาด ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปี 63 จีนส่งออกหมูไปฮ่องกง ลดลงเหลือเพียง 10.3% จากปี 62 ที่ส่งออกไปฮ่องกง 23.7% แต่การส่งออกจากไทย เพิ่มขึ้นถึง 10.2% หรือเพิ่มขึ้นถึง 3,286.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62