คณะกรรมการไต่สวน ส่งกกต. ยกคำร้อง “พิธา” ผิดม.151 ถือหุ้นสื่อ

คณะกรรมการไต่สวน เสนอความเห็นกกต. ยกคำร้อง “พิธา” ผิดม.151 ไม่พบว่า ช่วงสมัครสส. ไอทีวี ประกอบกิจการอยู่ และมีรายได้จากการทำสื่อ

  • ส่งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งพิจารณาต่อ
  • หากเห็นว่ามีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนจะสอบสวนเพิ่มเติม และเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถูกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่องรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา 151 เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (6) เพราะเหตุมีชื่อถือครองหุ้น บมจ.ไอทีวี (ITV) จำนวน 42,000 หุ้น

ขณะนี้คณะกรรมการไต่สวนดำเนินการสืบสวนไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วได้เสนอความเห็นว่า เห็นควรให้ยกคำร้อง เนื่องจาก การดำเนินการตามมาตรา 151 เป็นคดีอาญาที่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน แต่ขณะเปิดสมัครรับเลือกตั้ง สส. ในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย.2566 ไม่พบว่า บมจ.ไอทีวี มีการประกอบกิจการอยู่และมีรายได้จากการทำสื่อ โดยคณะกรรมการไต่สวนได้สรุปสำนวนและเสนอรายงานไปยังเลขาธิการ กกต.ซึ่งได้มอบให้รองเลขาธิการ กกต.ดำเนินการจ่ายสำนวนดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งพิจารณา ตามที่ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด 2563 กำหนดไว้ ก่อนที่จะเสนอให้ กกต.วินิจฉัย

ทั้งนี้เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ สอบสวนแล้วไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการไต่สวน เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ ได้รับสำนวนหากเห็นว่ามีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน มีข้อสงสัยก็จะดำเนินสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ซึ่งในกรณีนี้คาดว่า คณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ จะมีการสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งให้นายพิธาได้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะรอคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี กกต.ยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ขอให้วินิจฉัยสถานะ สส.ของนายพิธาจากเหตุเดียวกัน ก่อนที่จะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นเสนอ กกต.พิจารณา