ข้าวหอมมะลิไทยยังหอมกรุ่นไปทั่วโลก

  • กรมการค้าต่างประเทศระบุข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวโลก
  • ไม่ควรวิตกการจัดประกวดข้าว ที่ไทยเสียแชมป์ แต่ขอให้ดูที่คุณภาพ
  • เตรียมทำประชาสัมพันธ์ข้าวไทยดีและยังเป็นที่ยอมรับ

นายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงการจัดประกวดข้าวโลก 2019 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยข้าวพันธุ์ ST24 ของเวียดนาม ชนะการประกวดข้าวดีที่สุดในโลกนั้น ถือว่าประเทศไทยไม่ควรวิตกมากเกินไป ซึ่งจะต้องดูว่ารายละเอียดและวิธีการจัดประกวด โดยเฉพาะการทดสอบนำข้าวแต่ละชนิดของแต่ละประเทศมาพิสูจน์ทั้งกลิ่นและรสชาติแตกต่างกันอย่างไร และการจัดประกวดเวทีนั้นอยู่ในระดับที่เรียกว่าสากลเข้าขั้นระดับโลกแค่ไหน เพราะการจัดประกวดข้าวโลกของไทยจะจัด 2 ปี 1 ครั้ง โดยครั้งหน้าไทยจะจัดปี 2564 ซึ่งมีการเตรียมตัวทุกด้านอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีหลักเกณฑ์วิธีการทดสอบข้าวทุกประเทศและทุกชนิดที่แต่ละประเทศส่งเข้าประกวดอย่างมีมาตรฐานเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่อยากให้คนไทยตื่นตระหนักว่าข้าวไทยเสียแชมป์ข้าวโลก เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับประเทศผู้นำเข้าข้าวในตลาดโลกต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวข้าวไทยคุณภาพดีกว่าหลายประเทศ 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้าวหอมมะลิไทยจะดีกว่าคู่แข่งและหลายประเทศก็ตาม แต่ยังไม่ถึงขั้นทุกคนทั่วโลกจะต้องบริโภคข้าวไทยเพียงชนิดเดียว ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าจะอยากเลือกบริโภคข้าวชนิดไหนและประเทศอะไร เพราะข้าวแต่ละประเทศมีรสชาติและชนิดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในส่วนของข้าวหอมมะลิไทยที่ติดตลาดข้าวโลกและอยู่ได้นาน เพราะข้าวไทยถือมีอัตลักษณ์ที่ดีและเกิดขึ้นมายาวนาน ทำให้ข้าวไทยยังครองใจผู้บริโภคทั่วโลกได้จนถึงขณะนี้

ทั้งนี้ ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดโลกจะอยู่ที่ 1,100-1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันขึ้นไป แม้ว่าบางช่วงจะลดลงไปบ้างถือว่าเป็นการปรับขึ้นลงตามภาวะกลไกตลาด ซึ่งแผนการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแผนวางไว้อยู่แล้ว ที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์และกรมการข้าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าที่จะรักษาคุณภาพข้าวไทยและคิดค้นพันธุ์ข้าวไทยอยู่ต่อเนื่อง เพื่อให้พันธุ์ข้าวไทยมีความหลากหลายเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกได้ดีต่อไป