ข่าวดี!ตรึงค่าไฟอีก4เดือน เหตุกกพ.ไม่ขึ้นค่าเอฟที

  • ใช้เงินเหลือจากการไม่ลงทุน3การไฟฟ้ามาตรึง
  • ลดภาระรายจ่ายประชาชน
  • ฝันช่วยภาคเอกชนกระตุ้นส่งออก

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงานกกพ.) ในฐานะโฆษกกกพ. เปิดเผยว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัติโนมัติ (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนก.ย. – ธ.ค.นี้ จำนวน-11.60 สตางค์ต่อหน่วยส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่3.6396 บาทต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อนหน้านี้ โดยกกพ.ได้ใช้แนวทางการบริหารจัดการโดยพยายามรักษาค่าเอฟทีในระดับเดิมเนื่องจากไม่ต้องการให้ปัจจัยค่าไฟฟ้ามากระทบต่อภาระของประชาชน ซึ่งอาจจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ภาวะการส่งออกของประเทศชะลอตัวลงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของภาวะการค้าโลก

ทั้งนี้การตรึงราคาค่าเอฟทีในงวดดังกล่าวคาดว่าจะใช้เงิน9,000 ล้านบาทเพื่อดำเนินการบริหารจัดการค่าเอฟทีโดยส่วนหนึ่งนำเงินมาจากการกำกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของการไฟฟ้าเมื่อปีที่ผ่านมาจำนวน3,000 ล้านบาทและในส่วนที่เหลือประมาณ6,000 ล้านบาทจะเป็นความร่วมมือกันระหว่าง  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเพื่อช่วยรับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงแทนประชาชนไปชั่วคราวก่อน 


สำหรับการตัดสินใจไม่ปรับเพิ่มค่าเอฟทีในรอบนี้(ก.ย.-ธ.ค. ) เป็นการบริหารจัดการภายใต้ปัจจัยหลักๆทางด้านต้นทุนขาขึ้นที่ยังคงมีความผันผวนและกดดันต่อค่าเอฟทีภายใต้สมมติฐานที่ประกอบด้วย  1. อัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าเท่ากับ31.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐหรืออ่อนค่าลงกว่าช่วงที่ประมาณการในงวดเดือนพ.ค.- ส.ค.  ซึ่งมีค่าเฉลี่ย4 เดือนอยู่ที่ระดับ31.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ2. ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในเดือนก.ย. – ธ.ค.  เท่ากับ64,416.20 ล้านหน่วยปรับตัวลดลงจากช่วงเดือนพ.ค. – ส.ค.  เท่ากับ3,966.19 ล้านหน่วยคิดเป็น5.80% ตามสภาพความต้องการไฟฟ้าที่ลดลงเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปี3. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือนก.ย. – ธ.ค.  ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก55.78 %รองลงมาเป็นการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ18.91% ลิกไนต์และถ่านหินนำเข้าอยู่ที่8.79 %และ7.93% ตามลำดับ