.กรมทรัพย์สินทางปัญญาขึ้นทะเบียนจีไอแล้ว
.หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้เกษตรกรยั่งยืน
.จากปัจจุบันผู้เลี้ยงมีรายได้กว่าปีละ 2.5 พันล้านบาท
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) กุ้งก้ามกรามบางแพ ของจังหวัดราชบุรี นับเป็นสินค้าจีไอลำดับที่ 5 ของจังหวัด ต่อจากมะพร้าวน้ำหอมราชบุรี สับปะรดบ้านคา โอ่งมังกรราชบุรี และไชโป้วโพธาราม ที่ได้ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้
สำหรับกุ้งก้ามกรามบางแพ เป็นกุ้งก้ามกรามที่มีเปลือกสีน้ำเงินมันเงา ก้ามสีน้ำเงินหรือสีครามปนสีทอง เนื้อแน่นเต็มเปลือก เมื่อปรุงสุกจะมีรสชาติหวาน มีมันกุ้งมาก และไม่มีกลิ่นคาว พื้นที่เลี้ยงครอบคลุมอำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอโพธาราม ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ลักษณะเป็นดินเหนียวสีเทาเข้มถึงสีดำ มีเนื้อละเอียดถึงละเอียดมาก เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ำจืด น้ำทะเล และน้ำกร่อย รวมถึงบางส่วนเกิดจากตะกอนน้ำพัดพา
โดยลักษณะของพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุและจุลินทรีย์สูง ประกอบกับ ลักษณะอากาศที่เย็น ไม่ร้อนจัด ไม่หนาวจัด จึงเหมาะแก่การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพเป็นอย่างยิ่ง โดยในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งได้ขนานนามให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเมืองหลวงของการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม
“ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพกว่า 1,122 ราย สร้างรายได้เฉลี่ยกว่าปีละ 2,569 ล้านบาท แสดงถึงความสําเร็จของการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของผลผลิต และผลจากการขึ้นทะเบียนจีไอ คาดว่า จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกุ้งก้ามกรามบางแพได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด และช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย”
นายวุฒิไกร กล่าวอีกว่า กรมยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนสินค้าที่มีอัตลักษณ์ในพื้นที่แหล่งผลิตแต่ละท้องถิ่น ให้ขึ้นทะเบียนจีไอ เพื่อสร้างชื่อเสียงและรายได้สู่ชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่น โดยสินค้าที่ขึ้นทะเบียน แล้ว จะได้รับการส่งเสริมให้จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า ตลอดจนขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่องและครบวงจร สำหรับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น มีคุณลักษณะเฉพาะตามแหล่งภูมิศาสตร์ และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียนจีไอ ได้ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรม โทร. 1368
