“กอบกาญจน์-ขัตติยา”โชว์วิสัยทัศน์นำทัพกสิกรไทยฝ่าวิกฤติ

  • “กอบกาญจน์-ขัตติยา” นำทัพกสิกรไทยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโควิด-19
  • ลั่นพาลูกค้า-ประชาชน-ระบบแบงก์ รอดไปด้วยกัน
  • ตั้งธงหายไข้วันใด วิ่งสู่เป้าหมายขึ้นแท่นเป็นแบงก์หลักทั้งในไทย-ภูมิภาค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (7เม.ย.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย และนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเปิดวิสัยทัศน์หลังเข้ารับตำแหน่งแทนนายบัณฑูร ล่ำซำ อีกทั้งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกสิกรไทย ที่ไม่ใช่ตระกูลล่ำซำ

โดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บทบาทและหน้าที่ของประธานกรรมการ ในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแล ได้ประเมินฝ่ายบริหาร และศักยภาพพื้นฐานของธนาคารแล้ว ก็มั่นใจว่า ยังดำรงความแข็งแกร่งเป็นที่น่าพอใจ และเชื่อมั่นว่าฝ่ายจัดการจะสามารถบริหารธนาคารให้ก้าวผ่านโจทย์ธุรกิจในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 ควบคู่กับการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจเพื่อรับมือดิสรัปชั่นและความท้าทายอื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเรียบร้อย

ทั้งนี้ในด้านของเศรษฐกิจ หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จบภายในไตรมาส 2 เศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้จะหดตัว -5.0% ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้ คือ การใช้จ่ายของภาครัฐที่จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในปีนี้ และการฟืนตัวของเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเป็นตัว U มากกว่าตัว V โดยสิ่งสำคัญ คือ ต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นการกระจายรายได้ได้เร็วที่สุด และในช่วงปลายปีนี้ต้องเน้นไทยเที่ยวไทย

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงความรู้สึกในการรับตำแหน่งใหม่ว่า นับเป็นความท้าทายอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าจะนำธนาคารฝ่าวิกฤติโควิด-19 พร้อมทั้งยังนำพาลูกค้า ประชาชน ระบบการเงินของไทย ฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน และหากพ้นวิกฤติหายไข้ ธนาคารพร้อมวิ่งทันที เพื่อสู่เป้าหมายเป็นองค์กรใหญ่ มีความคล่องตัวสูง พร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง และขึ้นเป็นธนาคารหลักของประเทศไทย อีกทั้งวันข้างหน้าเป็นธนาคารหลักในภูมิภาค

“ฐานะของธนาคารกสิกรไทยยังแข็งแกร่ง มีเงินกองทุนขั้นที่ 1 สูงถึง 16 % หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ที่เพิ่มขึ้นสามารถบริหารจัดการได้ และเรื่องของเอ็นพีแอลได้ติดตามมาตลอด ธนาคารพร้อมเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าให้รอดไปด้วยกัน ในส่วนของพนักงานยืนยันว่าไม่มีการปลด พร้อมดูแลสุขภาพของทุกคนเป็นอย่างดี”

นางสาวขัตติยา กล่าวอีกว่า ในด้านของการช่วยเหลือลูกค้าให้ฝ่าวิกฤติในครั้งนี้นั้น ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้านสินเชื่อไปแล้ว 115,000 ราย ยอดสินเชื่อ 124,000 ล้านบาท และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด