- ชี้ผ่านเกณฑ์เยียวยา 5,000 บาท แล้ว 15 ล้านคน
- โอนเยียวยาสัปดาห์หน้าอีก 14.5 ล้านคน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้ว จำนวน 15 ล้านคน จากผู้เข้าข่ายมีสิทธิ์ได้รับเงิน 16 ล้านคน อย่างไรก็ตามในรัฐบาลจะดูแลหลังจากนี้ ได้แก่ กลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุ มีอยู่จำนวน 13 ล้านคน และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสังคม เนื่องจากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ฉุกเฉิน 1ล้านคน ซึ่งในส่วนนี้พม.จะเ้ขาไปช่วยเหลือ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กำลังเสนอมาตรการเพื่อมาดูแลในเร็วนี้ ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 14.6 ล้านคน ที่ในจำนวนนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการรัฐเพียง 2.4 ล้านคน และกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จจำนวน 1.7 ล้านคนนั้น กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือ
นายลวรณ กล่าวต่อว่า นอกเหนือเรื่องเงินเยียวยาแล้ว รัฐบาลยังได้ออกมาตรการดูแลผู้ประกอบการผ่าน 3มิติสำคัญคือ การลดค่ใช้จ่าย การป้องกันโรค และการดูแลสภาพคล่อง เช่น ธุรกิจใดที่มีการรักษาระดับการจ้างงานในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.63 สามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานไปหักลดหย่อนได้ 3 เท่า ยืดเวลาการเสียภาษี เว้นภาษีการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งเพื่อรักษาและป้องกัน ไปจนถึงมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้ รัฐบาลจะมีมาตรการออกมาอีกชุดหนึ่งเพื่อดูแลให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 15 ล้านคน จ่ายเงินไปแล้ว 13.9 ล้านคน และในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ครบ 14.5 ล้านคน วันนี้ชาวบ้านทั่วประเทศฝากขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ผ่านส.ส.พรรคพลังประชารัฐมา เพราะส่วนใหญ่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้ว สามารถช่วยประทังความเดือดร้อนในภาวะโควิด-19 ไปได้ ที่ผ่านมาตนได้ลงไปรับเรื่องร้องทุกข์ชาวบ้านเกือบทุกวัน เข้าใจหัวอกคนที่เดือดร้อนดี ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกคน
ทั้งนี้หลังจากปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทในโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่กรมประชาสัมพันธ์แล้ว มีประชาชนมายื่นร้องเรียนทั้งหมดเกือบ 30,000 คน ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการแยกกลุ่มปัญหาและแก้ไขไปแล้วจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ กระทรวงคลังยังเปิดให้มีการร้องทุกข์ต่อที่ธนาคารของรัฐคือ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศในวันเวลาราชการ ตั้งแต่วันที่ 18 -29 พ.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังเดือดร้อน แต่ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มงวดด้วย
