กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกางแผนลุยเอฟทีเอปี 66

.เตรียมชงครม.เคาะไฟเขียวเจรจากับอียูใน 2 สัปดาห์
.เร่งเครื่องสรุปผลเอฟทีเอคงค้าง 4 ฉบับภายในปี 67
.ศึกษาเปิดเจรจาใหม่กับอาหรับ พันธมิตรแปซิฟิก แอฟริกา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปี 66 กรมมีแผนเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 3 ด้าน คือ 1.เร่งเดินหน้าเปิดเจรจาเอฟทีเอ ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) โดยคาดภายใน 2 สัปดาห์นี้จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ เพื่อเปิดฉากการเจรจากับอียูได้ภายในไตรมาสแรกปีนี้ 2.เร่งสรุปผลเจรจาเอฟทีเอที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ คือ ไทย-เอฟตา ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์, อาเซียน-แคนาดา, ไทย-ตุรกี และไทย-ศรีลังกา โดยตั้งเป้าหมายเจรจาให้จบภายในปี 67


3.เร่งศึกษาประโยชน์และผลกระทบของการทำเอฟทีเอกับคู่ค้าใหม่ๆ โดยมีเป้าหมาย คือ กลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐประเทศอ่าวอาหรับ (จีซีซี) ประกอบด้วย 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก 4 ประเทศคือ ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก และเปรู และกลุ่มประเทศแอฟริกา 55 ประเทศ เพื่อหาตลาดใหม่ ที่จะช่วยขยายโอกาสการค้าไทยตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน


นางอรมน กล่าวว่า เอฟทีเอเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทยท่ามกลางความท้าทายเศรษฐกิจโลก โดยกรมตั้งเป้าหมายให้เอฟทีเอ เป็นกลไกเพิ่มสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับคู่ค้า จาก 63% ในปัจจุบัน เป็น 80% ภายในปี 70


“อียูเป็นเป้าหมายอันดับต้นในการเปิดเจรจาเอฟทีเอในปีนี้ เพราะเป็นตลาดใหญ่ เป็นคู่ค้าอันดับ 4 รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น มีสัดส่วนการส่งออก 7% ในปี 65 การค้าไทยกับอียู มีมูลค่า 41,038 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 2.9% จากปี 64 สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์อาหาร ไก่แปรรูป ข้าว เคมีภัณฑ์ ยาง และพลาสติก ส่วนกลุ่มจีซีซี ปี 65 มีมูลค่าการค้ากับไทยถึง 39,618 ล้านเหรียญฯ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกอยู่ที่ 6,239 ล้านเหรียญฯ และกลุ่มประเทศแอฟริกา 55 ประเทศอยู่ที่ 2,831 ล้านเหรียญฯ”


สำหรับผลการประชุมเจรจาเอฟทีเอไทย – เอฟตา รอบ 3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คืบหน้าด้วยดี ทั้งระดับหัวหน้าคณะเจรจา และระดับกลุ่มย่อยร่วมหารือ 15 ประเด็นสำคัญ ตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาภายในปี 67 พร้อมวางแผนการเจรจาในปีนี้อีก 4 รอบ กำหนดจัดประชุมทุก 2-3 เดือน มุ่งให้การเจรจาคืบหน้าและบรรลุตามเป้าหมายโดยเร็ว