กพท.จ่อเรียกนักบินนกแอร์เคลียร์ประเด็นทางสังคม 3 ส.ค.นี้ กำชับสนามบิน สายการบินเร่งคลี่คลายสถานการณ์ เน้นดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินเชียงราย ส่วนชุดปฏิบัติการกู้อากาศยานเข้าถึงพื้นที่แล้ว คาดสนามบินเชียงรายเปิดใช้งานได้ตามปกติ 4 ส.ค. นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุของเครื่องบินสายการบินนกแอร์ที่ประสบเหตุไถลออกนอก ทางวิ่ง (Runway Excursion) ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายว่า ได้กำชับให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)เน้นย้ำให้สายการบินให้ความช่วยเหลือผู่โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ขณะเดียวกันทาง กพท.จะเชิญเชิญนักบินผู้ควบคุมอากาศยานและนักบินผู้ช่วยของเครื่องบินลำที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย ของสายการบินนกแอร์เข้ามาชี้แจงในประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยถึงประเด็นการช่วยเหลือที่ล่าช้า ว่ามีการปฎิบัติตามขั้นตอนการอพยพในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ในประเด็น การอพยพผู้โดยสาร รวมทั้งการปฏิบัติของภาคพื้น นั้น ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ระบุว่า การอพยพผู้โดยสารทั้งหมดออกจากอากาศยานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องสามารถทำได้ภายในระยะเวลา 90 วินาที ทั้งนี้ การอพยพผู้โดยสารตามมาตรฐานสากลในกรณีฉุกเฉินให้ลุล่วงภายในเวลา 90 วินาทีนี้ ถูกกำหนดขึ้นใช้กับอากาศยานพลเรือนทุกแบบ และในกรณีเกิดเหตุ การตัดสินใจของนักบินในการสั่งการอพยพผู้โดยสารจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะนั้น นักบินสามารถตัดสินใจพิจารณาถึงความปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสารเป็นหลัก ส่วนประเด็นด้านการปฏิบัติงานของสนามบิน ในการขนผู้โดยสารออกจากเครื่องบินนั้นทาง กพท.ได้รับรายงานว่าปกติแล้ว สนามบินเชียงรายจะใช้สะพานเทียบอากาศยาน (Aerobridge) ในการขึ้นลงของผู้โดยสาร ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดเรื่องรถขนส่งผู้โดยสาร
นอกจากนั้นทาง กพท.ยังได้รายงานถึง การเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายว่า สายการบินเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและประสานงานในการกู้และเคลื่อนย้ายอากาศยาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างการประเมินการเคลื่อนย้ายอากาศยานให้ปลอดภัยที่สุด โดยมีขั้นตอนดำเนินการทั้งเรื่องการสอบสวนและให้เตรียมการเพื่อเคลื่อนย้ายอากาศยาน เบื้องต้นสนามบินจะยังคงปิดไปถึงตามกำหนดการเดิมคือ 3 สิงหาคม 65
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ ทางสายการบินแจ้งว่า เนื่องจากเที่ยวบินเป็นเวลากลางคืนทำให้ไม่สามารถหาอาหารว่างได้ และน้ำดื่มมีจำกัดจึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง กรณีเรื่องสัมภาระนั้นหน่วยงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และได้อนุญาตให้นำสัมภาระออกมาได้ ทางสายการบินนกแอร์แจ้งว่าได้เริ่มนำสัมภาระของผู้โดยสารออกจากเครื่องบินตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ก.ค. และได้ประสานให้ผู้โดยสารมารับสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้ว (Checked baggage) ส่วนสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน (Carry-on baggage) มีผู้โดยสารมาแสดงตนขอรับคืนแล้วบางส่วน สำหรับสัมภาระที่ยังไม่มีผู้มาแสดงตนขอรับคืน ยังฝากอยู่ที่สนามบินเชียงราย
ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินเชียงราย ทางสนามบินเชียงรายได้จัดรถเพื่อรับส่งผู้โดยสารระหว่างที่สนามบินเชียงรายปิดไปเชียงใหม่แทนแล้ว และบางสายการบินยังได้จัดเที่ยวบินพิเศษจากตารางการบินเดิมไปยังเชียงใหม่ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเชียงรายด้วย และจากการตรวจสอบสายการบิน ด้านการดูแลตามสิทธิผู้โดยสาร พบว่าทุกสายการบินที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553
ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้มีบัตรโดยสารอยู่เดิมและซื้อบัตรโดยสารใหม่ในช่วงใกล้เวลาการเดินทาง เข้าและออกจากสนามบินเชียงใหม่ อาจประสบปัญหาบัตรโดยสารราคาสูง อย่างไรก็ตาม กพท. มีกลไกการตรวจสอบราคาขายบัตรโดยสารของสายการบินอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการขายเกินเพดานราคาที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านสิทธิผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนมาได้ที่ https://caat.or.th/complaint/
