
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ก.ค.64) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 จ.เลย นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และนายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยในวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 9 ราย
นายปรีดา กล่าวว่า วันนี้ จ.เลย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 9 ราย สะสมในระลอกเดือนเมษายน 2564 มีจำนวน 150 ราย หายป่วยแล้ว 100 ราย กำลังรักษา 49 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 1,542 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 142 เป็นหญิงไทย อายุ 49 ปี อาชีพทำงานก่อสร้างอยู่ที่ กทม.เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 143 และ 144 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านห้วยไผ่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านซ้าย มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานที่ตรวจพบเชื้อที่ กทม. ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
รายที่ 143 เป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพ ขับรถฉีดพ่นน้ำพื้นถนน เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 142 และ 144 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านห้วยไผ่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านช้าย มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานที่ตรวจพบเชื้อที่ กทม. ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 144 เป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี อาชีพรับจ้าง (แม่บ้านใน Office) เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 142 และ 143 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านโพนสว่าง ต.วังยาว อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
รายที่ 145 เป็นหญิงไทย อายุ 40 ปี อาชีพเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่กทม. ภูมิลำเนาอยู่บ้านนาเจริญ ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลภูกระดึง มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย
รายที่ 146 หญิงไทย อายุ 32 ปี อาชีพขายไก่ย่าง ส้มตำอยู่ที่ จ.นครปฐม ภูมิลำเนาอยู่บ้านพองหนีบ ต.ศรีฐานอ.ภูกระดึง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลภูกระดึง มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 ราย
รายที่ 147 เป็นเพศชาย สัญชาติกัมพูชา อายุ 38 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. ภูมิลำเนาอยู่บ้านดอนหอ ต.หนองคัน อ.ภูหลวง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลภูหลวง มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย
รายที่ 148 ชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพขับรถบริษัทซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) (เป็นสามีของผู้ป่วยรายที่ 144) ภูมิลำเนา อยู่บ้านโพนสว่าง ต.วังยาว อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
รายที่ 149 หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพเป็นพนักงานธุรการในแคมป์คนงานก่อสร้าง โครงการศุภาลัยเวอเรนด้า เขตภาษีเจริญ ภูมิลำเนาอยู่บ้านโคกงาม ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
รายที่ 150 ชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพวิศวกรก่อสร้าง โครงการศุภาลัยเวอเรนด้า ภาษีเจริญ (สามีของผู้ป่วยรายที่149) ภูมิลำเนาอยู่บ้านโคกงาม ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ส่วนอีก 2 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลในต่างจังหวัด โดยรายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 50 ปีอาชีพคนงานก่อสร้างบริษัท อิตาเลียนไทย เขตหลักสี่ กทม. ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 6 ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง มีประวัติเคยรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ระหว่างวันที่ 14 พ.ค. – 10 มิ.ย. 64 เดินทางกลับมาบ้าน จ.เลย พร้อมกับสามี ในวันที่ 26 มิ.ย.64 และวันที่ 28 มิ.ย. 64 ผู้ป่วยมีอาการ ไข้ ไอ หอบ จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลวังสะพุง และส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลเลย
ส่วนอีกหนึ่งราย เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง บริษัท ทีพีทียู เทเลอร์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านแสงอรุณต.นาด้วง อ.นาด้วง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเลย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย
ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า สถานการณ์ในช่วงนี้จะมีผู้ป่วยเดินทางกลับมารักษายังภูมิลำเนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เตียงตามโรงพยาบาลต่างๆรวมทั้งหมด 187 เตียง ใช้ไปแล้ว 64 เตียง คิดเป็น 34.22% เหลือเตียงว่าง 123 เตียง หรือ 65.78% คาดการณ์ว่าเตียงที่มีอยู่ จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 10 วัน ซึ่งทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.เลย ได้เตรียมแผนเปิดโรงพยาบาลสนามรองรับไว้แล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วยที่โรงพยาบาลจิตเวชเลย ราชนครินทร์ 10 เตียง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหนองหิน 20 เตียง และหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารมทบ.28 จำนวน 100 เตียง
อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลยอนุมัติเสียก่อน ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.64) จึงอยากขอให้ผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.เลย ที่ต้องการเดินทางกลับมา ขอให้แจ้งกับทางโรงพยาบาล จะได้เข้าสู่การรักษาได้ทันที ลดจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ป่วยเดินทางเข้ามาอีกหลายราย










