

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้ ได้สร้างความเสียหายอย่างมากทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19” ผ่าน 4 ภารกิจที่ต่อยอดจากจุดแข็งขององค์กร ได้แก่ เครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวาง, ศักยภาพของบุคลากร, ตำแหน่งพื้นที่สาขาที่กระจายทั่วประเทศ และระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
“ด้วยความมุ่งมั่นของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น “ศูนย์กลางชีวิตของผู้คน” (Central to Life) เราพร้อมที่จะใช้ทุกสรรพกำลังขององค์กร ทั้งเรื่องเครือข่ายธุรกิจ บุคลากร และระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน พร้อมผนึกกำลัง และจุดแข็งของธุรกิจในเครือ ภายใต้โครงการ ‘CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19’ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจใน 4 มิติหลัก คือ

1. สร้างต้นแบบระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และครบวงจร พร้อมต่อยอดไปทั่วประเทศการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด เซ็นทรัล รีเทล จึงร่วมกับสภาหอการค้าไทย นำเสนอต้นแบบระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และครบวงจร (Total solution) พร้อมทั้งพื้นที่ธุรกิจในเครือฯ ได้แก่ พื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ไทวัสดุ และท็อปส์ พลาซ่า ทั้งหมด 109 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับภาครัฐในการกระจายวัคซีนเข้าไปหาคนไทยอย่างทั่วถึง พร้อมจัดหาบุคลากร จิตอาสา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้ อาทิ คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สำนักงาน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมจิตอาสาที่ทำงานอย่างหนักทุกคน โดยคาดว่าในแต่ละพื้นที่ จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 1,500 – 2,000 คนต่อวัน
2. สร้างต้นแบบโมเดล เพื่อเป็นแต้มต่อให้กับ SME ในการเข้าถึง Soft Loan เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ จัดทำโครงการต้นแบบ Sand Box ในเฟสแรก เพื่อเสริมสภาพคล่อง SME ขนาดเล็ก ที่มียอดวงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ได้ร่วมนำเสนอรายชื่อ และข้อมูลให้ธนาคารอนุมัติกว่า 6,000 ราย โดยคาดว่า 1,000 รายแรก จะได้รับการอนุมัติ Soft Loan ภายในอาทิตย์หน้า โดยมากกว่า 70% ของทั้ง 6,000 ราย ยังไม่เคยเข้าถึง Soft Loan มาก่อน

และจะทำเฟสต่อไปสำหรับ SME ที่มียอดวงเงินกู้มากกว่า 5 ล้านบาท พร้อมขยายผลความสำเร็จจากโครงการต้นแบบนี้ไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ผ่านทางสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมหอการค้าไทย สมาคมศูนย์การค้า และสมาคมโรงแรม เป็นต้น เพื่อให้ SME ได้รับอนุมัติสินเชื่อ Soft Loan มากกว่า 100,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่อง และเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจต่อไป
3. ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพ และสาธารณสุข เช่น เซ็นทรัล รีเทล บริจาคกล่องกระดาษลูกฟูก เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นเตียงสนาม 6,000 เตียง และเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนร่วมกันบริจาคอีก 1,000 เตียง เพื่อรวบรวมให้ได้ครบ 7,000 เตียงภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยลูกค้าสามารถร่วมบริจาคได้ที่จุดรับบริจาค ณ ห้างร้านและศูนย์การค้าในเครือฯ กว่า 124 จุดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป, ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, เพาเวอร์บาย, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, ไทวัสดุ และศูนย์กระจายสินค้า เซ็นทรัล รีเทล สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2564 โดยร่วมกับ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจีพี สามารถเช็คสาขาที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ เฟซบุ๊ค Central Retail

บริจาคอาหาร และสิ่งของจำเป็นให้แก่โรงพยาบาลสนาม และจุดฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ได้ส่งมอบอาหาร สิ่งของจำเป็น และอุปกรณ์เวชภัณฑ์ ให้กับโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์รังสิต และจุดฉีดวัคซีน พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนบริจาคอาหารและสิ่งของจำเป็นให้บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามจำนวน 56 แห่งใน 42 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ จุดรับบริจาคที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา และแฟมิลี่มาร์ท สาขาที่ร่วมโครงการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th เฟซบุ๊ค Tops Thailand และ FamilyMart Thailand
4. รวมพลังคนไทย ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับภาคเอกชน และประชาชน รวมพลังกัน เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการใช้สินค้าไทยและธุรกิจของคนไทย กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และอุดหนุนการกิน เที่ยว ใช้ของไทย เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างเร็ว และยั่งยืน พร้อมเพิ่มโอกาสในการจ้างงานให้กับคนไทยทั้งประเทศ