ฮ่องกงฤาจะรอด

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหนุ่มสาวชาวฮ่องกงประมาณกันว่าน่าจะมีจำนวนมากถึง1.7 ล้านคนออกมาเดินขบวนประท้วงบนถนนสำคัญๆเช่นในย่านCauseway Bay ไปยังCentral ประชิดเข้ามาถึงย่านหม่งก๊ก-  เกาลูนอีกครั้งพร้อมกับยื่นเงื่อนไขให้สนามบินเช็คแลปก็อกยกเลิกเที่ยวบินต่างๆที่จะเข้าไปยังเกาะฮ่องกง 1,000 เที่ยวบิน

การออกมาชุมนุมประท้วงดังกล่าวทำให้เส้นทางรถเมล์มากกว่า100 เส้นทางต้องหยุดชั่วคราวและพยายามเบี่ยงเบนไปยังเส้นทางอื่นเพื่อเช่ือมพื้นที่ระหว่างเกาะเกาลูนกับฮ่องกงโดยการผ่านอุโมงค์ข้ามท่าเรือเพื่อช่วยเหลือผู้คนท่ัวไปในการเดินทางในขณะที่คนขับรถแท็กซี่บ่นกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่าเขารู้สึกหมดหวังและวิตกกังวลกับส่ิงที่เกิดขึ้นในฮ่องกงอย่างมาก

 เช่นเดียวกับนักธุรกิจในฮ่องกงซึ่งเป็นมีสาขาธุรกิจการเงินการค้าและเทรดเดอร์ในฮ่องกงมากและดำเนินธุรกิจมานานเร่ิมตัดสินใจย้ายสาขาของธรุกิจตนมายังประเทศไทยจำนวนไม่น้อยแล้วแม้ว่าจะมีจำนวนหน่ึงย้ายไปอยู่สิงคโปร์ก็ตามแต่คนที่จะไปสิงคโปร์ได้จะต้องสามารถพูดภาษาแมนดารินได้เมื่อไม่ได้ก็ต้องหันมาหาประเทศไทยเรานี่เอง

 แน่นอนว่านักธุรกิจจำนวนหน่ึงโดยเฉพาะสัญชาตอเมริกันกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ารัฐบาลปักกิ่งจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรแม้จะยอมรับว่ารัฐบาลจีนจะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้สามารถลุกขึ้นมาปิดเกาะฮ่องกงได้เช่นนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆในแบบที่ไม่รู้จักจบสิ้นแต่คงมีสักทางที่จะทำการปราบปรามไม่ให้ฮ่องกงอยู่ในระบบ 1 ประเทศ2 ระบบหรือStand alone อีกต่อไปแน่ๆ

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมธุรกิจหลากหลายสาขาจึงเตรียมอพยพออกจากฮ่องกงไปอยู่ที่อื่นแน่นอนเพราะไม่อยากเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบข้อมูลหรือถูกจีนครอบงำระบบดาต้าเบสท์ของบริษัท

นักธุรกิจที่นั่นบอกกับผู้สื่ข่าวว่าผู้ปกครองในเขตพิเศษของฮ่องกงบริหารงานผิดพลาดหลายอย่างโดยเฉพาะในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเด็กที่จบการศึกษาออกมาเด็กเหล่านี้หางานทำไม่ได้เพราะระบบการศึกษาฮ่องกงไม่ยอมรับที่จะให้เด็กๆเรียนภาษาแมนดารินในขณะที่ตลาดมีความต้องการสูงและภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาเดียวที่จะหางานทำได้

ที่แย่กว่านั้นก็คือตกงานแล้วยังหาที่อยู่อาศัยไม่ได้ด้วยเพราะราคาอสังหาริมทรัพย์บนเกาะฮ่องกงนั้นแพงลิบจะเรียกว่าแพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้เพราะสนนราคาที่อยู่อาศัยสูงถึงตร.ฟุตละเกือบ 20,000 ดอลล่าร์ฮ่องกงหรือราว 82,000 บาท 

แม้แต่ที่อยู่อาศัยที่ถูกซอยจนเล็กที่สุดที่เรียกว่า“นาโนแฟลต” ห้องเล็กสี่เหลี่ยมแบบกล่องไม้ขีดขนาด215 ตร.ฟุตหรือเพียง20 ตร.เมตรก็แทบจะอยู่กันไม่ได้ไม่เฉพาะแต่คนที่ได้งานทำเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้จัดการหัวหน้าส่วนของบริษัทหลายแห่งก็ไม่สามารถจะหาที่อยู่ที่มีราคาต่ำกว่านี้ได้หรือมีขนาดที่ใหญ่กว่าได้

โครงการอย่างที่บ้านเราทำและเรียกกันว่า“บ้านเอื้ออาทร” ที่ฮ่องกงก็ไม่ทำให้แม้จะรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาหมักหมมมานานและสักวันจะต้องเกิดการปะทุลุกฮือขึ้นแต่ผู้ว่าการเขตปกครองแห่งนี้ก็ไม่ทำ

เพราะฉนั้นตราบเท่าที่ปัจจัย 4 ในฮ่องกงยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างจริงจังการจะปราบปรามให้คนรุ่นนี้ยุติการชุมนุมก็คงเป็นเรื่องยากมาก

                  สายทิพย์