“อนุทิน” ประชุมทางไกล WEF หารือการฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19



  • ประชุมทางไกลความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
  • รับมือ COVID-19 และการฟื้นเศรษฐกิจและสังคมหลังการระบาด
  • ในเวที World Economic Forum


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าร่วมการประชุมทางไกลเปิดตัว Regional Action Group for Asia Pacific จัดโดย World Economic Forum (WEF) เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการรับมือกับ COVID-19 รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อการรื้อฟื้นเศรษฐกิจและสังคมหลังการระบาด COVID-19 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกสำนักงานภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ และภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชีย และประธานของ World Economic Forum เข้าร่วมการประชุม

โดยนายอนุทิน ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมว่า การระบาดของโรคโควิด 19 ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างทุกมิติ การรับมือจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้เตรียมพร้อมตั้งแต่ระยะแรกของการระบาด ทำให้สามารถรับมือกับสถานการณ์และควบคุมการระบาดของโรคได้ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยกว่า 40 ราย โดย WEF จะมีบทบาทสำคัญในการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพและการดำเนินธุรกิจในบริบท “ความปกติในรูปแบบใหม่” (new normal)

สำหรับ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยสามารถรับมือกับการระบาดของโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี คือการมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า อีกทั้งได้น้อมนำปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตระหว่างการเผชิญกับโรคระบาด รวมทั้งการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการป้องกันควบคุมโรคในระดับชุมชน และความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างเสียสละในการรับมือกับโรคระบาดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ส่วน คำถามถึงการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคของไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ของประธาน World Economic Forum นายอนุทินกล่าวตอบว่า เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือความปลอดภัยของประชาชน การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และรัฐบาลกำลังร่างแนวทางในการดำเนินงานดังกล่าว

ทั้งนี้ World Economic Forum หรือ WEF ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2514 และได้รับสถานะเป็นองค์กรระหว่างประเทศด้านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจากรัฐบาลสหรัฐเมื่อปี พ.ศ. 2548 มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเรื่องการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอแนะทิศทางในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาในระดับระหว่างประเทศ ผ่านเครือข่ายผู้นำภาคการเมือง ธุรกิจ และภาคประชาสังคม