

วันนี้ (3 ก.พ.65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยกล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ทะลุ 384 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,916,531 คน ตายเพิ่ม10,858 คน รวมแล้วติดไปรวม 384,960,111 คน เสียชีวิตรวม 5,716,637 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกา บราซิล และอินเดีย จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 86.89% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 79.07%
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 55.63 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ35.1 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก
…ดูสถิติรายสัปดาห์ของ Worldometer ทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลง 7% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 14%
มองดูสถิติของไทยเรา สถานการณ์ระบาดยังไม่ดีนัก สวนกับกระแสโลก โดยจำนวนติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 6% และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 27%
…ปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางในการอยู่กับโควิด-19 มีอยู่ 2 เรื่องหลัก ได้แก่
หนึ่ง การเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพสูงของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากประเทศใด ยังไม่สามารถทำให้เข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม ครบถ้วน แต่ไปดำเนินมาตรการเปิดเสรีการใช้ชีวิตเร็วเกินไป ย่อมเกิดผลกระทบทั้งด้านการติดเชื้อ ป่วย และตายตามมา และจะทำให้ระยะเวลาการระบาดยืดยาวออกไปมากขึ้น
สอง ความรู้ความเข้าใจทางการแพทย์เกี่ยวกับ Long COVID ผลกระทบระยะยาว และการเตรียมระบบสุขภาพเพื่อรองรับดูแลและให้คำปรึกษา
…การระบาดของไทยเรายังเยอะ กระจายไปต่อเนื่อง จำเป็นต้องป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ณ จุดนี้ จำเป็นต้องพึ่งตนเอง และดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ดี เพื่อประคับประคองตัวให้ผ่านพ้นการระบาดไปให้ได้